เหตุใดชาวจีนจึงเรียกตนเองว่า “ลูกหลานของมังกร”?
หลายคนเข้าใจว่ามังกรเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติจีน จึงเรียกประเทศจีนว่า ‘แผ่นดินมังกร’ หรือแม้แต่ชาวจีนเองก็เรียกตัวเองว่า ‘龙的传人’ ซึ่งหลายคนแปลว่า ‘ลูกหลานของมังกร’
หลายคนเข้าใจว่ามังกรเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติจีน จึงเรียกประเทศจีนว่า ‘แผ่นดินมังกร’ หรือแม้แต่ชาวจีนเองก็เรียกตัวเองว่า ‘龙的传人’ ซึ่งหลายคนแปลว่า ‘ลูกหลานของมังกร’
หากพูดถึงบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์จีนอย่างขงจื่อ (孔子) เหลาจื่อ (老子) เมิ่งจื่อ (孟子) หรือแม้แต่สวินจื่อ (荀子) เชื่อว่าคนไทยหลายต่อหลายคนคงได้ยินผ่านหูมาบ้าง แต่มีบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์จีนอีกท่านหนึ่งที่ยังไม่ค่อยปรากฏสู่สายตาคนไทยและยังไม่ค่อยได้รับการพูดถึงเท่าใดนัก นั่นก็คือ ก่วนจ้ง (管仲) หรือก๋วนจื่อ (管子)
ในประเทศจีนมีการพิสูจน์สาวพรหมจารีด้วยวิธีการอันหลากหลาย ส่วนใหญ่เพื่อถวายตัวสาวพรหมจารีแด่จักรพรรดิ แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ความเชื่อที่เคยฝังหัวก็ค่อยๆ จางลง มีบันทึกว่ามีการพิสูจน์สาวพรหมจารีตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น
จักรพรรดิคังซี (康熙 ค.ศ1654-1722) เป็นจักรพรรดิองค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์ชิง (清 ค.ศ 1636 – ค.ศ 1912) เป็นโอรสของจักรพรรดิซุ่นจื้อ (順治 ค.ศ 1638-1661) ขึ้นครองราชย์เมื่อมีพระชนมายุเพียง 8 พรรษา หลังจากพระราชบิดาสวรรคตแล้ว พระองค์ก็อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระอัยยิกา (ย่า) จักรพรรดิ
‘หยก’ เป็นรัตนชาติที่อยู่คู่วัฒนธรรมจีนมาอย่างยาวนาน นับแต่โบราณมาชาวจีนก็มีความเชื่อความศรัทธาในหยกและยกย่องให้หยกเป็นสัญลักษณ์แห่งความสิริมงคลเจริญรุ่งเรือง ซึ่งจะนำความโชคดีมาสู่ผู้ครอบครอง
การก่อตั้งเมืองหลวงสำรองมีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจวตะวันตก (西周) หรือเมื่อ 1,046 ปีก่อนคริสต์ศักราช ขณะนั้น ราชธานีของราชวงศ์โจวตะวันตก คือ นครเฮ่าจิน
เมื่อหนทางที่ห่างไกลทำให้คนสองคนไม่อาจพบหน้ากันได้ ของแทนใจจึงเป็นเหมือนสายใยแห่งความรักความคิดถึงที่เชื่อมสองใจไว้ด้วยกัน ยามต้องไกลห่างจากบุรุษอันเป็นที่รัก สตรีในยุคโบราณจะมอบของรักของหวงหรือของที่ติดตัวเป็นประจำให้ฝ่ายชายดูต่างหน้ายามคิดถึง
หากเอ่ยถึง ‘จี้กง’ หลายคนจะนึกถึงภาพพระภิกษุครองจีวรแบบมหายานขาดปุปะ สวมรองเท้าสานเก่าๆ หมวกผ้าขาดๆ ถือพัดที่สานจากไม้ไผ่ ปรากฏตัวในละครโทรทัศน์ที่มีเนื้อหาสนุกสนานแต่แฝงด้วยคติธรรมสอนใจ สำหรับผู้ที่นับถือศาสนาพุทธนิกายมหายานยกย่องให้จี้กงเป็นพระอรหันต์
เทพเจ้าแห่งโชคลาภ หรือที่คนไทยรู้จักกันในนามไฉ่สิ่งเอี๊ย (财神爷) เป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่ชาวจีนกราบไหว้บูชามาแต่โบราณกาล เชื่อกันว่ามีอิทธิฤทธิ์ช่วยดลบันดาลเงินทอง
ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 หรือระหว่างยุคกลางถึงปลายราชวงศ์ชิง ชาวจีนจำนวนมหาศาลหอบเสื่อผืนหมอนใบ จำใจจากบ้านเกิดไปแสวงหาลู่ทางทำมาหากินในต่างประเทศเพื่อส่งเงินกลับมาจุนเจือครอบครัวที่อดอยากแร้นแค้น ชาวจีนอพยพเหล่านี้ส่วนใหญ่ไร้ซึ่งทุนทรัพย์