—–จาย
จัตุรัสที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศจีน ล้วนแต่มีร่องรอยทางประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน เช่น จัตุรัสเทียนอันเหมิน ณ มหานครปักกิ่ง เป็นต้น หลังจากผ่านกาลเวลา ผ่านยุคสมัยจนกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ซึ่งในจำนวนนั้นก็มี จัตุรัสเซนาโด ที่มีเรื่องราวมากมาย และยังคงต้อนรับนักท่องเที่ยวจนถึงปัจจุบัน
จัตุรัสเซนาโด
—–จจัตุรัสเซนาโด (Senado Square) โดยทั่วไปเรียกว่าบ่อน้ำพุ (喷水池) เป็น 1 ใน 4 จัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในมาเก๊า ( อีก 3 จัตุรัสคือ จัตุรัสศูนย์วัฒนธรรมมาเก๊า, จัตุรัสทะเลสาบไซวาน, จัตุรัสแทปแซก ) มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม ฐานกว้าง ปลายแหลมแคบ ตั้งอยู่ใจกลางคาบสมุทรมาเก๊า มีพื้นที่ราว 3,700 ตารางเมตร
จัตุรัสเซนาโด
—–จัตุรัสแห่งนี้ด้านหน้าติดกับอาคารสำนักงานบริหารราชการส่วนพลเรือน[1](民政總署大樓) ด้านขวาเป็นที่ว่าการไปรษณีย์ (ตัวอาคารเป็นแบบตะวันตกสไตล์คลาสสิก) และ อาคารแห่งความเมตตา[2] (The Holy House of Mercy 仁慈堂大樓) ด้านซ้ายเป็นอาคารสไตล์นีโอคลาสสิกสูง 3 ชั้นซึ่งทรงคุณค่าทางสถาปัตยกรรม และได้รับการคุ้มครองทางด้านวัฒนธรรมโดยไม่อนุญาตให้เปลี่ยนแปลงภายนอกตัวอาคาร แต่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในได้
—–เมื่อค.ศ. 1993 มีการปูพื้นถนนด้วยในลักษณะลูกคลื่นด้วยกระเบื้องสีดำและสีขาวที่นำเข้ามาจากโปรตุเกส ซึ่งสร้างความโดดเด่นสะดุดตาแก่ผู้เดินทางมาเยือน นับว่าสะท้อนถึงความเป็นยุโรปบนแผ่นดินจีนทางใต้ได้เป็นอย่างดี เมื่อเดินตรงไปด้านหลังของจัตุรัสแห่งนี้จะพบโบสถ์เซนต์ดอมินิก[3] (St. Dominic’s Church) และจัตุรัสเซนต์ดอมินิก
โบสถ์เซนต์ดอมินิก
——ตรงกลางบริเวณจัตุรัสคือน้ำพุอันเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ โดยสร้างขึ้นทดแทนรูปปั้นนายพล Mesquita (นายพลชาวโปรตุเกสผู้นำกองพลบุกมาเก๊าเมื่อ ค.ศ. 1849) ซึ่งถูกชาวจีนลากล้มลงมาในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1966 บริเวณนี้เป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนของชาวมาเก๊าตั้งแต่ทศวรรษที่ 70 และในปัจจุบันก็ยังเป็นที่จัดงานเทศกาลต่างๆ เช่น ตรุษจีน ปีใหม่ ของมาเก๊าอีกด้วย
—–นอกจากนี้ยังมีถนนซินหม่าลู่ (新马路) ซึ่งเป็นถนนทางตรงที่ตัดผ่านจัตุรัสแห่งนี้ มีความยาว 620 เมตร สมัยก่อนเป็นเพียงถนนคดเคี้ยวที่เชื่อมกับท่าเรือ จนกระทั่ง ค.ศ. 1918 จึงตัดถนนเป็นเส้นตรงและกลายเป็นถนนทางตรงเส้นแรกของมาเก๊า การตัดถนนเส้นนี้ทำให้ระบบคมนาคมของมาเก๊ามีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น นำมาสู่การพัฒนาจนกลายเป็นถนนสายสำคัญและเป็นศูนย์กลางการค้าของมาเก๊าในปัจจุบัน
—–ถัดจากจัตุรัสเซนาโดจะเป็นที่ตั้งของซุ้มประตูโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul’s) ที่หลงเหลืออยู่ สมัยก่อนตั้งอยู่ติดกับวิทยาลัยเซนต์ปอล โดยวิทยาลัยแห่งนี้สร้างเมื่อ ค.ศ. 1594 แล้วเสร็จ ค.ศ. 1762 เป็นสถาบันอุดมศึกษาแบบตะวันตกแห่งแรกของเอเซียตะวันออก ส่วนโบสถ์เซนต์ปอลสร้างเมื่อ ค.ศ. 1602 สร้างเสร็จราวค.ศ. 1637-1640 โดยผนังด้านหน้าโบสถ์ที่เห็นในปัจจุบันเป็นส่วนสุดท้ายที่ก่อสร้างเสร็จ น่าเสียดายที่ใน ค.ศ. 1835 ได้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่เผาทำลายวิทยาลัยเซนต์ปอลจนหมดสิ้น ส่วนโบสถ์เหลือแค่ผนังด้านหน้า ฐานโบสถ์และบันไดหินเท่านั้น ต่อมาในระหว่างค.ศ. 1991-1996 ได้มีการบูรณะครั้งใหญ่โดยสถาปนิกชาวโปรตุเกสจนผนังโบสถ์กลับมางดงามอีกครั้ง
ซุ้มประตูโบสถ์เซนต์ปอล
—–จัตุรัสแห่งนี้เคยเป็นฉากในหนังฮ่องกงยุคทศวรรษที่ 50 และ 60 อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันนอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกต้องเดินทางมาเยือนแล้ว ยังเป็นสถานที่พบปะสังสรรค์และจัดกิจกรรมทางการเมือง สังคมและวัฒนธรรมของชาวมาเก๊า กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ สถานที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ที่ได้รับความนิยมจากชาวมาเก๊าและชาวต่างชาติมากที่สุด อีกทั้งเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณและวัฒนธรรมของมาเก๊าได้เป็นอย่างดีจนได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อ ค.ศ. 2005
[1] อาคารสำนักงานบริหารราชการส่วนพลเรือน เคยเป็นศาลาว่าการเดิมสร้างเมื่อ ค.ศ. 1784 แต่ก็ผ่านการซ่อมแซมอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งมีโครงสร้างดังที่เห็นในปัจจุบันซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปทางใต้ ส่วนชั้น 2 ของอาคารเป็นห้องสมุด เปิดให้บริการเมื่อ ค.ศ. 1929 โดยสร้างเลียนแบบห้องสมุดแห่งเมืองมาฟรา ประเทศโปรตุเกส (Library of the Convent of Mafra)
[2] อาคารแห่งความเมตตา สร้างเมื่อค.ศ. 1569 โดยบิชอปองค์แรกแห่งมาเก๊า เคยเป็นโรงพยาบาลแพทย์ตะวันตกแห่งแรกของจีน อีกทั้งยังเป็นสถานรับเลี้ยงเด็ก และบ้านพักคนชราด้วย อาคารแห่งนี้ได้รับการซ่อมแซมอยู่หลายครั้ง จนกระทั่ง ค.ศ. 1905 จึงมีรูปโฉมดังเช่นในปัจจุบัน็น
[3] โบสถ์เซนต์ดอมินิก เป็นโบสถ์ที่สวยที่สุดของมาเก๊า เริ่มสร้างเมื่อ ค.ศ. 1587 ซึ่งเป็นโครงสร้างไม้อย่างง่าย ต่อมาค.ศ. 1828 ก็ได้รับการซ่อมแซมจากบาทหลวงชาวโปรตุเกสที่เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้าง ภายในอาคารมีพระแม่ฟาติมาซึ่งชาวโปรตุเกสศรัทธามากที่สุด และมีจิตรกรรมสีน้ำมัน ภาพแกะสลักที่สวยงาม โดยวันที่ 13 พฤษภาคมของทุกปีจะมีขบวนแห่พระแม่ฟาติมาอันเป็นงานเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ของมาเก๊า
เรียบเรียงโดย เสี่ยวเฉิน—