ย้อนรอยตระกูลต้วนแห่งต้าหลี่
เรื่องโดย กงจื่อเสียน
——ในยุทธจักรอันกว้างใหญ่ ซึ่งเปี่ยมด้วยบรรดาจอมยุทธ์และวิทยายุทธ์สุดพิสดารนั้น “กระบี่เทพหกชีพจร” (六脈神劍) และ“ดรรชนีเอกสุริยัน” (一陽指) ถือว่าเป็นสองยอดกระบวนท่าของตระกูลต้วน (段氏) แห่งอาณาจักรต้าหลี่ (大理國 ค.ศ. 937 – 1094, 1096 – 1254)[1] ที่ยากจักหากระบวนท่าใดทัดเทียม

ภาพกษัตริย์ลี่เจิน (ต้วนจื้อซิง) นมัสการพระเถระ《利貞皇帝禮佛圖》จากม้วนภาพพุทธะ《大理國梵像卷》ของจางเซิ่งเวิน (張勝溫)
——หากผู้อ่านเป็นคอนิยายกำลังภายในของกิมย้งก็คงเคยทราบกิตติศัพท์ของ “ตระกูลต้วน” กันมาบ้าง เพราะเป็นที่ถูกกล่าวขวัญถึงอยู่บ่อยครั้ง เช่น ตัวละครต้วนอี้ว์ (段譽) อ๋องน้อยเมืองต้าหลี่ ในเรื่องแปดเทพอสูรมังกรฟ้า《天龍八部》หรือ ต้วนจื้อซิง (段智興) กษัตริย์ต้าหลี่ หนึ่งในสี่จอมยุทธ์แห่งยุทธจักร ฉายาราชันทักษิณ (南帝) ในเรื่องมังกรหยก (ตำนานวีรบุรุษยิงอินทรี)《射雕英雄傳》แม้ยอดวิทยายุทธ์ รวมถึงเรื่องราวโลดโผนต่างๆ จะเป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นจากจินตนาการของผู้ประพันธ์ แต่ตัวละครเหล่านี้กลับถอดแบบมาจากบุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ทั้งสิ้น
- กำเนิดตระกูลต้วนแห่งอาณาจักรต้าหลี่
——เรื่องราวความเป็นมาของตระกูลต้วนแห่งต้าหลี่นั้น เริ่มตั้งแต่สมัยอาณาจักรน่านเจ้า (南詔國 ค.ศ. 738 – 902) ตอนปลาย ในช่วงเวลานั้นแผ่นดินลุกเป็นไฟ กษัตริย์น่านเจ้าถูกปลงพระชนม์และอาณาจักรน่านเจ้าก็ถูกแทนที่ด้วยอาณาจักรต้าฉางเหอ (大長和國 ค.ศ. 902 – 928) อาณาจักรต้าเทียนซิง (大天興國 ค.ศ. 928 – 929) และอาณาจักรต้าอี้หนิง (大義寧國 ค.ศ. 929 – 937) ตามลำดับ การผลัดเปลี่ยนแผ่นดินถึงสามครั้งในระยะเวลาเพียงสามสิบห้าปีเช่นนี้ เป็นเหตุให้ชาวบ้านตาดำๆ ต้องตกเป็นเหยื่อสงคราม ต้วนซือผิง (段思平 ค.ศ. 893 – 944) ผู้บัญชาการทหารอำเภอทงไห่ (通海節度使) ทายาทขุนศึกแห่งน่านเจ้า จึงได้ช่องซ่องสุมไพร่พลจากชนเผ่าต่างๆ และสามารถนำกำลังทหารโจมตีจนได้ชัยชนะอาณาจักรต้าอี้หนิงในที่สุด แล้วปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรต้าหลี่เมื่อค.ศ. 937 ตระกูลต้วนแห่งราชวงศ์ต้าหลี่จึงเริ่มปรากฏบทบาทในหน้าประวัติศาสตร์จีนนับแต่นั้น
——หนังสือประวัติตระกูลต้วน《段氏世家》และหนังสือเกร็ดประวัติศาสตร์น่านเจ้า《南詔野史》ได้บันทึกเกี่ยวกับต้นตระกูลของต้วนซือผิงโดยสังเขปว่า เดิมเป็นชาวเมืองกูจาง (姑臧) แคว้นอู่เวย (武威) (เมืองอู่เวย มณฑลกานซู่ในปัจจุบัน) บรรพบุรุษของเขามีนามว่า “ต้วนเจี่ยนเว่ย” (段儉魏) เป็นแม่ทัพของเก๋อหลัวเฟิง (閣羅鳳) กษัตริย์องค์ที่สองแห่งน่านเจ้า เขานำทัพชนะกองทัพราชวงศ์ถังในสงครามเทียนเป่า (天寶) จึงได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นขุนนางชิงผิง (清平官)[2] และมีนามพระราชทานว่า “จงกั๋ว” (忠國 ภักดีต่อชาติ) ถือศักดิ์เทียบเท่ามหาเสนาบดี และมีผู้สืบทอดเชื้อสายมาอีก 6 รุ่น จนถึงรุ่นของ “ต้วนซือผิง”
——หลังจากต้วนซือผิงปกครองต้าหลี่ ก็เริ่มปฏิรูปอาณาจักรในด้านต่างๆ ทั้งยกเลิกระบบทาส (奴隸制) เปลี่ยนเป็นใช้ระบบศักดินา (分封制) รวมถึงวางรากฐานทางเศรษฐกิจและการเมืองของชนเผ่าไป๋ให้มั่นคง ต้าหลี่จึงกลายเป็นอาณาจักรที่มีความเป็นปึกแผ่น ส่วนกษัตริย์ต้วนซือผิงเองก็เป็นที่ยอมรับของอาณาประชาราษฎร์ เมื่อสวรรคต ประชาชนชาวไป๋พร้อมใจกันสร้างรูปปั้น วัดวาอาราม รวมถึงจัดพิธีสักการะเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระองค์ในทุกๆ ปี
- ประเพณีการสละราชย์และออกผนวช
——พุทธศาสนาเริ่มเผยแผ่เข้าสู่ยูนนานหลังจากกลางคริสต์ศตวรรษที่ 8 และได้รับการอุปถัมภ์จากเชื้อพระวงศ์น่านเจ้าจนกลายเป็นศาสนาประจำชาติ ดังนั้นเมื่อก่อตั้งอาณาจักรต้าหลี่แล้ว ตระกูลต้วนก็ยังคงสืบทอดวัฒนธรรมเดิมของน่านเจ้าอยู่ พุทธศาสนาได้มีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตและระบบความคิดของตระกูลต้วน ทั้งด้านการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ การศึกษา สังคม จนเกิดประเพณีการสละราชย์และออกผนวชขึ้นภายหลัง
——ครั้นกษัตริย์ต้วนซือผิงสวรรคต ต้วนซืออิง (段思英 ค.ศ. 916 – 967) พระโอรสจึงขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์ที่ 2 ทว่ากลับโดนต้วนซือเหลียง (段思良 ค.ศ. 899 – 952) พระปิตุลาปลดจากตำแหน่งและส่งไปบวชเป็นภิกษุ แม้ต้วนซืออิงจะเป็นกษัตริย์พระองค์แรกของต้าหลี่ที่เสด็จเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ แต่ก็หาใช่ต้นคิดและเป็นกษัตริย์เพียงพระองค์เดียวที่สละราชย์ออกผนวชไม่
——ในเวลาต่อมาต้วนซู่หลง (段素隆) กษัตริย์องค์ที่ 8 ของต้าหลี่ ไม่โปรดการบริหารบ้านเมือง จึงสละราชย์และออกผนวช การออกผนวชแม้มิใช่จารีตประเพณีที่พึงปฏิบัติอย่างขาดไม่ได้ แต่ก็มีกษัตริย์ต้าหลี่ถึง 9 พระองค์ที่เสด็จออกผนวช ทั้งนี้ มีผู้วิเคราะห์ถึงสาเหตุการออกผนวชของเหล่ากษัตริย์ต้าหลี่ไว้ 4 ประการคือ
- เพลี่ยงพล้ำในการชิงอำนาจทางการเมือง จึงถูกปลดเป็นภิกษุ
- สถานะในราชบัลลังก์ไม่มั่นคงและถึงคราวอับจน จึงออกผนวชเพื่ออาศัยผ้าเหลืองคุ้มภัย
- ตระกูลเกากุมอำนาจ จึงถูกบีบให้ออกผนวช
- ปฏิบัติตามขัตติยประเพณี เมื่อกษัตริย์องค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ กษัตริย์องค์เก่าจึงออกผนวช เพื่อเปิดทางให้กษัตริย์องค์ใหม่บริหารบ้านเมืองได้อย่างเต็มที่
——อนึ่ง การออกผนวชยังอาจเป็นผลสืบเนื่องจากการรวมอำนาจอาณาจักรกับศาสนจักรของอาณาจักรน่านเจ้าและต้าหลี่ด้วย
- การเรืองอำนาจของตระกูลเกา
——หลังจากกษัตริย์ต้วนซือเหลียงขึ้นครองราชย์ ก็มีผู้สืบสันตติวงศ์อีก 7 รุ่น ซึ่งใน 7 รุ่นนี้ก็ปรากฏทั้งกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชา และกษัตริย์ที่ไม่ค่อยใส่พระทัยในงานราชกิจ
——ครั้นถึงรัชสมัยของกษัตริย์ต้วนซู่ซิง (段素興 ไม่ทราบปีเกิด – ราวค.ศ. 1044) ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่หย่อนพระปรีชา ขาดความสามารถในการปกครอง สนพระทัยแต่สิ่งบันเทิงเริงรมย์ จึงถูกมหาเสนาบดีเกาจื้อเซิง (高智升) ปลดจากตำแหน่ง และสถาปนาต้วนซือเหลียน (段思廉 ค.ศ. 1027 – ค.ศ. 1108) พระปนัดดา (เหลน) ของต้วนซือผิงขึ้นเป็นกษัตริย์แทน ในช่วงที่ต้วนซือเหลียนครองแผ่นดิน ตระกูลหยางก่อการจลาจล และตระกูลเกา (高氏) มีบทบาทในการปราบจลาจลในครั้งนี้ สร้างความดีความชอบแก่บ้านเมืองอย่างใหญ่หลวง ตระกูลเกาจึงมีอิทธิพลเพิ่มขึ้น ในขณะที่พระราชอำนาจของกษัตริย์ตระกูลต้วนกลับลดน้อยถอยลง สามสิบปีต่อมา ต้วนซือเหลียนได้สละราชย์ให้แก่ต้วนเหลียนอี้ (段廉義 ไม่ทราบปีเกิด – ค.ศ. 1080) ผู้เป็นโอรส
- เหล่าราชาแห่งยุทธจักรนิยาย
——หลังจากรัชสมัยของต้วนเหลียนอี้ บ้านเมืองปั่นป่วน เพราะมีการผลัดเปลี่ยนผู้ปกครองอยู่บ่อยครั้ง ทั้งยังถูกแทนที่ด้วยตระกูลขุนนางเช่น หยางอี้เจิน (楊義貞 ไม่ทราบปีเกิด – ค.ศ. 1080) ผู้ปลงพระชนม์ต้วนเหลียนอี้ และตั้งตนเป็นกษัตริย์แทน หรือเกาเซิงไท่ (高升泰 ไม่ทราบปีเกิด – ค.ศ. 1096) ผู้บีบต้วนเจิ้งหมิง (段正明) กษัตริย์หุ่นเชิดให้สละราชสมบัติ และเถลิงอำนาจในราชบัลลังก์เสียเองในค.ศ.1094 ทั้งยังเปลี่ยนชื่ออาณาจักรเป็น “ต้าจง” (大中) อีกด้วย แต่ต่อมาเกาเซิงไท่เห็นว่าประชาชนยังศรัทธาตระกูลต้วนอยู่ จึงสั่งเสียโอรสให้คืนราชบัลลังก์แก่ตระกูลต้วน
——ค.ศ. 1096 เมื่อเกาเซิงไท่สวรรคต ต้วนเจิ้งฉุน (段正淳) ขึ้นครองราชย์ ผู้ครองอาณาจักรต้าหลี่กลับเป็นคนตระกูลต้วนอีกครั้ง ต้าหลี่เข้าสู่ยุค “โฮ่วต้าหลี่” (後大理) หรือสมัยต้าหลี่ตอนปลาย อย่างไรก็ตาม อำนาจที่แท้จริงกลับตกอยู่ในเงื้อมมือของตระกูลเกาดังเดิม สถานการณ์จึงกลายเป็นว่า “ตระกูลต้วนปกครองบ้านเมืองโดยปราศจากอำนาจ ตระกูลเกากุมอำนาจโดยมิได้ครองแผ่นดิน”
——กษัตริย์ต้วนเจิ้งหมิงและต้วนเจิ้งฉุนที่กล่าวถึงข้างต้นนี้ เป็นต้นแบบของตัวละครชื่อเดียวกันในนิยายเรื่องแปดเทพอสูรมังกรฟ้า องค์หนึ่งคือลุงผู้มีจิตใจเมตตา อีกองค์หนึ่งคือบิดาผู้มากรักของ “ต้วนอี้ว์” พระเอกตามท้องเรื่องนั่นเอง ในนิยายต้วนเจิ้งฉุนเป็นเพียงเจิ้นหนานอ๋อง (鎮南王) มิได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ ซ้ำร้ายยังฆ่าตัวตายเพราะรัก ทว่าตามความเป็นจริง ต้วนเจิ้งฉุนทรงเป็นกษัตริย์ลำดับที่ 15 ของต้าหลี่

ตัวละคร “ต้วนอี้ว์” รับบทโดยหลินจื้ออิ่ง (林志穎) จากละครโทรทัศน์แปดเทพอสูรมังกรฟ้า ค.ศ. 2003
——ค.ศ. 1108 ต้วนเจิ้งฉุนสละราชย์และออกผนวช ต้วนเจิ้งเหยียน (段正嚴 ค.ศ. 1083 – 1176) พระโอรสขึ้นเป็นกษัตริย์แทน ต้วนเจิ้งเหยียนมีอีกพระนามหนึ่งคือ “ต้วนเหออี้ว์” (段和譽) เป็นต้นแบบของตัวละคร “ต้วนอี้ว์” ในเรื่องแปดเทพอสูรมังกรฟ้า พระองค์มิได้ทรงช่ำชองกระบวนท่าอย่างกระบี่เทพหกชีพจร หรือพลังเทพภูติอุดร เฉกเช่นตัวละครในนิยาย แต่พระองค์ก็มีคุณสมบัติเพียบพร้อมทั้งบุ๋นและบู๊ ถือว่าเป็นกษัตริย์องค์สำคัญของต้าหลี่ ทรงครองราชย์นานถึง 41 ปี แม้จะตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือของตระกูลเกา พระองค์ก็ยังคงบริหารแผ่นดินอย่างแข็งขัน สร้างความสัมพันธ์อันดีกับราชวงศ์ซ่ง (宋 ค.ศ. 960 – 1279) จนราชวงศ์ซ่งยอมรับสถานะกษัตริย์ต้าหลี่ บั้นปลายชีวิตของพระองค์เผชิญทั้งศึกนอกศึกใน จึงสละราชย์ให้แก่พระโอรส “ต้วนเจิ้งซิง” (段正興) และออกผนวชเช่นเดียวกับพระบิดา
——ครั้นถึง ค.ศ.1171 ต้วนจื้อซิง (段智興 ไม่ทราบปีเกิด – ค.ศ. 1200) หลานชายของต้วนเจิ้งเหยียนขึ้นครองราชย์ ทรงเป็นต้นแบบของตัวละคร “อิดเต็งไต้ซือ” (一燈大師) ในเรื่องมังกรหยก ทว่าอันที่จริงพระองค์กลับมิได้มีพระปรีชาเท่าไรนักและยังมิเคยออกผนวชอีกด้วย พระองค์ไม่ใส่พระทัยความเป็นอยู่ของพสกนิกร แต่ทรงเลื่อมใสพุทธศาสนาเป็นอันมาก ทรงสร้างวัดวาอารามถึง 60 แห่ง จนทรัพย์สินเงินทองในท้องพระคลังร่อยหรอ เป็นเหตุให้ต้าหลี่อ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง
- เส้นทางสู่กาลอวสาน
——ก่อนที่ต้าหลี่จะล่มสลาย ก็ยังมีช่วงเวลาที่ถือว่าเป็นความหวังใหม่อยู่บ้าง กษัตริย์ต้วนจื้อเสียง (段智祥) ทรงปกครองแผ่นดินด้วยหลักคุณธรรม รู้จักมอบหมายหน้าที่แก่ผู้มีความสามารถ สถานการณ์บ้านเมืองจึงกระเตื้องขึ้น ทรงครองราชย์นานถึง 33 ปี ทว่าหลังจากนั้นต้าหลี่ก็เริ่มเสื่อมอำนาจ จนถึงคราวล่มสลายในรัชสมัยของกษัตริย์ต้วนซิงจื้อ (段興智 ไม่ทราบปีเกิด – ค.ศ. 1260)
——ค.ศ. 1252 – 1254 มองโกล (蒙古) ยกไพร่พลจากทางเหนือมาโจมตีอาณาจักรต้าหลี่ เดิมทีกำลังทหารต้าหลี่ก็มิได้อ่อนแอ เพียงแต่ตระกูลเกาต้องการลดทอนอำนาจของตระกูลต้วน จึงย้ายกำลังพลมีฝีมือของราชวงศ์มาอยู่ใต้บังคับบัญชาของตน ในขณะเดียวกันก็ฝึกทหารในเขตแดนที่ตนดูแลอย่างจริงจัง กองกำลังในพระนครเลยย่อหย่อน เมื่อถึงเวลาต้องรบทัพจับศึกก็มิอาจต้านทานทัพมองโกลไว้ได้ ต้าหลี่จึงถูกยึดครองในที่สุด ถือเป็นการสิ้นแผ่นดินและสิ้นอำนาจวาสนาของตระกูลต้วนและตระกูลเกาแห่งต้าหลี่แต่เพียงนี้
รายพระนามกษัตริย์แห่งต้าหลี่
ลำดับ | พระนาม | ช่วงเวลาครองราชย์ | เหตุการณ์สำคัญ |
ต้าหลี่ตอนต้น (前大理 ค.ศ. 937 – 1094) | |||
1 | ต้วนซือผิง (段思平) | ค.ศ. 937 – 944 | ต้วนซือผิงก่อตั้งอาณาจักรต้าหลี่ |
2 | ต้วนซืออิง (段思英) | ค.ศ. 944 – 945 | ถูกต้วนซือเหลียงปลดเป็นภิกษุ |
3 | ต้วนซือเหลียง (段思良) | ค.ศ. 945 – 952 | ปลดหลานชายและขึ้นครองราชย์ |
4 | ต้วนซือชง (段思聰) | ค.ศ. 952 – 968 | ตระกูลเกาเริ่มมีบทบาทในราชสำนัก |
5 | ต้วนซู่ซุ่น (段素順) | ค.ศ. 969 – 985 | เผชิญทั้งศึกนอกและศึกใน ทว่าสามารถยุติลงได้ |
6 | ต้วนซู่อิง (段素英) | ค.ศ. 986 – 1009 | เป็นกษัตริย์ที่ดี ใส่พระทัยอาณาประชาราษฎร์ |
7 | ต้วนซู่เหลียน (段素廉) | ค.ศ. 1009 – 1022 | |
8 | ต้วนซู่หลง (段素隆) | ค.ศ. 1023 – 1026 | สละราชย์ออกผนวช |
9 | ต้วนซู่เจิน (段素真) | ค.ศ. 1027 – 1041 | |
10 | ต้วนซู่ซิง (段素興) | ค.ศ. 1041 – 1044 | ถูกเกาจื้อเซิงปลด และแต่งตั้งต้วนซือเหลียนเป็นกษัตริย์ |
11 | ต้วนซือเหลียน (段思廉) | ค.ศ. 1044 – 1075 | สละราชย์ออกผนวช |
12 | ต้วนเหลียนอี้ (段廉義) | ค.ศ. 1075 – 1080 | ขุนนางหยางอี้เจินปลงพระชนม์ต้วนเหลียนอี้
และตั้งตนเป็นกษัตริย์ |
หยางอี้เจิน (楊義貞) | ค.ศ. 1080 | ครองราชย์ 4 เดือน ถูกตระกูลเกาสังหาร | |
13 | ต้วนโซ่วฮุย (段壽輝) | ค.ศ. 1080 – 1081 | ตระกูลเกาครองอำนาจในราชสำนัก สละราชย์ออกผนวชทั้งสองพระองค์ |
14 | ต้วนเจิ้งหมิง (段正明) | ค.ศ. 1081 – 1094 | |
ต้าจง (大中 ค.ศ. 1094-1096)
เกาเซิงไท่บีบต้วนเจิ้งหมิงให้สละราชย์ และเถลิงอำนาจในราชบัลลังก์เสียเอง พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่ออาณาจักรเป็นต้าจง |
|||
เกาเซิงไท่ (高升泰) | ค.ศ. 1094 – 1096 | ก่อนสิ้นใจ สั่งเสียให้บุตรชายคืนบัลลังก์แก่ตระกูลต้วน | |
ต้าหลี่ตอนปลาย (後大理 ค.ศ. 1096-1254)
เกาเซิงไท่เสียชีวิต และคืนบัลลังก์ให้แก่ตระกูลต้วน ต้วนเจิ้งฉุนขึ้นครองราชย์ ต้าจงกลับมาเป็นต้าหลี่อีกครั้ง |
|||
15 | ต้วนเจิ้งฉุน (段正淳) | ค.ศ. 1096 – 1108 | สละราชย์ออกผนวช |
16 | ต้วนเจิ้งเหยียน (段正嚴) | ค.ศ. 1108 – 1147 | ทรงครองราชย์ 41 ปี ยาวนานที่สุดในอาณาจักรต้าหลี่ บั้นปลายชีวิตสละราชย์ออกผนวช |
17 | ต้วนเจิ้งซิง (段正興) | ค.ศ. 1147 – 1171 | สละราชย์ออกผนวช |
18 | ต้วนจื้อซิง (段智興) | ค.ศ. 1172 – 1200 | อาณาจักรต้าหลี่เริ่มเสื่อมอำนาจ |
19 | ต้วนจื้อเหลียน (段智廉) | ค.ศ. 1200 – 1204 | |
20 | ต้วนจื้อเสียง (段智祥) | ค.ศ. 1205 – 1238 | ปกครองด้วยหลักคุณธรรม ต้าหลี่มีความหวังใหม่ |
21 | ต้วนเสียงซิง (段祥興) | ค.ศ. 1239 – 1251 | อาณาจักรต้าหลี่อ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง |
22 | ต้วนซิงจื้อ (段興智) | ค.ศ. 1251 – 1254 | |
ค.ศ. 1252 – 1254 ทัพมองโกลบุกโจมตีดินแดนต้าหลี่ จนต้าหลี่ถึงคราวล่มสลาย |
[1] ระหว่างค.ศ. 1094 – 1096 ถูกคั่นด้วยอาณาจักรต้าจง (大中) ของตระกูลเกา
[2] ขุนนางระดับสูงสุด ตำแหน่งรองจากกษัตริย์แห่งน่านเจ้า