จูหยวนจาง จากยาจกสู่จักรพรรดิ
จักรพรรดิหมิงไท่จู่ (明太祖) ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์หมิง(明朝)ถือเป็นกษัตริย์องค์ที่ 2 ต่อจากกษัตริย์ฮั่นโกโจ(汉高祖)แห่งราชวงศ์ฮั่น(汉朝)ที่ไต่เต้าจากการเป็นสามัญชนขึ้นสู่ตำแหน่งผู้ปกครองสูงสุดของจีน
จักรพรรดิหมิงไท่จู่ (明太祖) ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์หมิง(明朝)ถือเป็นกษัตริย์องค์ที่ 2 ต่อจากกษัตริย์ฮั่นโกโจ(汉高祖)แห่งราชวงศ์ฮั่น(汉朝)ที่ไต่เต้าจากการเป็นสามัญชนขึ้นสู่ตำแหน่งผู้ปกครองสูงสุดของจีน
ลักษณะของบทประพันธ์เรื่องยาวสมัยราชวงศ์หมิง แบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทใหญ่ คือ นิยายอิงประวัติศาสตร์(讲史小说)นิยายประเภทผีสางเทวดา(神鬼小说)นิยายประเภทสะท้อนสังคม(世情小说)นิยายประเภทคดีความ(公案小说)
เทพเจ้าแห่งโชคลาภ หรือที่คนไทยรู้จักกันในนามไฉ่สิ่งเอี๊ย (财神爷) เป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่ชาวจีนกราบไหว้บูชามาแต่โบราณกาล เชื่อกันว่ามีอิทธิฤทธิ์ช่วยดลบันดาลเงินทอง
ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 หรือระหว่างยุคกลางถึงปลายราชวงศ์ชิง ชาวจีนจำนวนมหาศาลหอบเสื่อผืนหมอนใบ จำใจจากบ้านเกิดไปแสวงหาลู่ทางทำมาหากินในต่างประเทศเพื่อส่งเงินกลับมาจุนเจือครอบครัวที่อดอยากแร้นแค้น ชาวจีนอพยพเหล่านี้ส่วนใหญ่ไร้ซึ่งทุนทรัพย์
‘หมิงฮุน’ (冥婚) หมายถึง ‘พิธีแต่งงานหลังการตาย’ เป็นประเพณีการจัดพิธีสมรสให้แก่ชายหรือหญิงที่เสียชีวิตไปแล้ว ด้วยเชื่อว่าดวงวิญญาณของผู้ตายจะเป็นสุขและส่งผลให้วงศ์ตระกูลเจริญรุ่งเรือง
ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน จักรพรรดิองค์แล้วองค์เล่าจากราชวงศ์ต่างๆ ผลัดเปลี่ยนขึ้นมาปกครองบ้านเมือง ทรงเป็นโอรสสวรรค์ตามคติความเชื่อของชาวจีน จึงมีพระราชอำนาจล้นฟ้า
พุทธศาสนาแบ่งออกเป็นหลายนิกาย บางคนคุ้นเคยกับการเรียกว่า ‘เถรวาท-อาจริยวาท’ บางคนคุ้นเคยกับ ‘หินยาน-มหายาน’ อย่างไรก็ดีทั้งหมดล้วนถือกำเนิดจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เสด็จดับขันธปรินิพพานไปเมื่อ 2,500 กว่าปีมาแล้วทั้งสิ้น
หญิงขายบริการทางเพศเป็นอาชีพที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณในทุกบ้านเมืองทั่วโลก มีทั้งแบบยินยอมพร้อมใจและถูกบีบบังคับ แม้ในปัจจุบันหญิงขายบริการเป็นอาชีพที่ ‘ไร้เกียรติ’ ในสายตาคนทั่วไป
“ตีสามแล้ว... ระวังฟืนไฟ” คำเตือนนี้คงคุ้นหูผู้ที่ติดตามละครหรือภาพยนตร์จีนย้อนยุคเป็นอย่างดี เป็นคำเตือนของเจ้าหน้าที่แจ้งเวลาตอนกลางคืนตามท้องถนน แต่คนจีนสมัยโบราณทราบเวลาได้อย่างไรทั้งๆ ที่ไม่มีนาฬิกา
นวนิยายจีนเรื่อง ‘จินผิงเหมย’ (金瓶梅) หรือชื่อไทยว่า ‘บุปผาในกุณฑีทอง’ ได้รับการยกย่องเป็น 1 ใน 4 สุดยอดวรรณกรรมในสมัยราชวงศ์หมิง แต่งโดยผู้ใช้นามแฝงว่า ‘หลันหลิงเซี่ยวเซี่ยวเซิง’ (蘭陵笑笑生) ราวปลายสมัยราชวงศ์หมิง