—–ปัจจุบันมีนักเรียน นักศึกษาเรียนภาษาจีนมากขึ้น ยิ่งเรียน คำศัพท์ยิ่งเยอะและยากขึ้น และเมื่อสังเกตจะพบว่า คำศัพท์ภาษาจีนบางคำที่เราใช้บ่อยๆ กลับสร้างความสับสน มึนงงให้เราเป็นอย่างมาก
—–ดังนั้นทางอาศรมสยาม-จีนวิทยา จึงขอนำเสนอภาษาจีนที่คนใช้ยังใช้สับสนอยู่ โดยเป็นคำศัพท์ที่นักเรียน นักศึกษา จนถึงประชาชนทั่วไปพบเจอในชีวิตประจำวันกันทั้งนั้น
เรามาต่อกันใน Ep.4 กันดีกว่าค่ะ
本事 (běn shì) กับ 本领 (běn lǐng)
—–คำว่า 本事 กับ 本领 ใช้แทนกันได้ในความหมายว่า “ความสามารถ”
ตัวอย่าง
我干不了这活儿,你本事大你来干!
Wǒ gàn bù liǎo zhè huó ér, nǐ běn shì dà nǐ lái gàn!
我干不了这活儿,你本领大你来干!
Wǒ gàn bù liǎo zhè huó ér, nǐ běn lǐng dà nǐ lái gàn!
คำแปล: ฉันทำไม่ได้หรอกงานนี้ คุณมีความสามารถมาก คุณมาทำสิ! (งานนี้ฉันทำไม่ได้หรอก
คุณเก่งคุณก็มาทำสิ!)
想不到她一个女人竟有那么大本事!
Xiǎng bú dào tā yí gè nǚ rén jìng yǒu nà me dà běn shì!
想不到她一个女人竟有那么大本领!
Xiǎng bú dào tā yí gè nǚ rén jìng yǒu nà me dà běn lǐng!
คำแปล: นึกไม่ถึงว่า ผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างเธอจะมีความสามารถมากขนาดนั้น
****************************************
—–แม้ว่าทั้ง 2 คำจะใช้แทนกันได้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความเคยชินและความนิยมของการใช้ภาษาจีนเป็นหลัก
- 本事 ใช้เมื่อกล่าวถึงความสามารถโดยทั่วไปของบุคคล เป็นการกล่าวแบบกว้างๆ และมักใช้ในภาษาพูด
ตัวอย่าง
能不能过这一关,就看你有多大本事。
Néng bù néng guò zhè yī guān, jiù kàn nǐ yǒu duō dà běn shì.
ผ่านด่านนี้ได้หรือไม่ ก็ดูว่าคุณมีความสามารถมากแค่ไหน
堂堂大男人欺负女孩子,算什么本事?
Táng táng dà nán rén qī fù nǚ hái zǐ, suàn shén me běn shì?
ลูกผู้ชายแท้ๆ รังแกเด็กผู้หญิง จะนับว่าเป็นความสามารถอะไร?
只有本事大的歌星才能开个人演唱会。
Zhǐ yǒu běn shì dà de gē xīng cái néng kāi gè rén yǎn chàng huì.
มีเพียงนักร้องที่มากความสามารถเท่านั้น ถึงจะเปิดคอนเสิร์ตเดี่ยวได้
- 本领 ใช้เมื่อกล่าวถึงทักษะ ความชำนาญ ความสามารถเฉพาะตัวในเรื่องใดเรื่องหนึ่งของบุคคลหรือสัตว์ โดยได้จากการฝึกฝนและพัฒนา
ตัวอย่าง
他自幼跟着师傅习武,如今本领高强。
Tā zì yòu gēn zhe shī fù xí wǔ,rú jīn běn lǐng gāo qiáng.
เขาฝึกวิทยายุทธ์กับอาจารย์ตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันฝีมือเก่งกล้าแล้ว
这只猴子爬树摘椰子的本领真厉害!
Zhè zhī hóu zǐ pá shù zhāi yē zǐ de běn lǐng zhēn lì hài!
ความสามารถในการปีนต้นไม้เด็ดลูกมะพร้าวของลิงตัวนี้เยี่ยมยอดจริงๆ!
幼稚园老师多数有能唱会跳编舞蹈的本领。
Yòu zhì yuán lǎo shī duō shù yǒu néng chàng huì tiào biān wǔ dǎo de běn lǐng.
ครูอนุบาลส่วนใหญ่มีความสามารถในการร้องรำทำเพลงออกแบบท่าเต้น
- ใช้เมื่อเน้นการบรรยายหรือเล่าเรื่องเกี่ยวกับคุณสมบัติเฉพาะ ลักษณะจำเพาะหรือหน้าที่หลักที่มีมาโดยธรรมชาติของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ตัวอย่าง
胃具有消化食物的本领。
Wèi jù yǒu xiāo huà shí wù de běn lǐng.
กระเพาะอาหารมีความสามารถในการย่อยอาหาร
极地动物都具有耐寒的本领。
Jí dì dòng wù dōu jù yǒu nài hán de běn lǐng.
สัตว์ที่ดำรงชีวิตอยู่แถบขั้วโลกต่างมีคุณสมบัติที่ทนต่อความหนาวเหน็บได้
森林的本领之一:调节地球生态平衡。
Sēn lín de běn lǐng zhī yī :tiáo jié dì qiú shēng tài píng héng.
คุณสมบัติอย่างหนึ่งของป่าไม้ คือ รักษาความสมดุลทางชีวภาพของโลก
金属物体大部分都有导热与导电的本领。
Jīn shǔ wù tǐ dà bù fèn dōu yǒu dǎo rè yǔ dǎo diàn de běn lǐng.
สิ่งของที่เป็นโลหะส่วนใหญ่มีคุณสมบัตินำความร้อนและนำไฟฟ้า
รู้หรือไม่!!
ภาษาไทยก็มีหลายคำที่มีความหมายว่า “เป็นคนเก่ง มีความสามารถ” เช่น มากฝีมือ มีความสามารถหลายด้าน ฝีมือชั้นเซียน หาตัวจับได้ยาก คำเหล่านี้ในภาษาจีนใช้คำว่าอะไร หาคำตอบได้จากตัวอย่างประโยคต่อไปนี้
มากฝีมือ (มากความสามารถด้านศิลปะการแสดง) –> 多才多艺 (duō cái duō yì)
他是一名多才多艺的演员。
Tā shì yì míng duō cái duō yì de yǎn yuán.
เขาเป็นนักแสดงมากฝีมือ (มากความสามารถ) คนหนึ่ง
(คนที่) มีความสามารถหลายด้าน –> 多面手 (duō miàn shǒu)
这位老师是多面手,连水电活计都难不倒他。
Zhè wèi lǎo shī shì duō miàn shǒu,lián shuǐ diàn huó jì dōu nán bù dǎo tā.
คุณครูท่านนี้เป็นคนที่มีความสามารถหลายด้าน ขนาดงานประเภทไฟฟ้าหรือประปาก็ไม่คณามือเขา
ฝีมือชั้นเซียน (ฝีมือขั้นเทพด้านทักษะ หรือ ความชำนาญ) –> 手艺高超 (shǒu yì gāo chāo) หรือ 技术超群 (jì shù chāo qún)
他是一名手艺高超的汽车修理技师。
Tā shì yì míng shǒu yì gāo chāo de qì chē xiū lǐ jì shī.
เขาเป็นช่างซ่อมรถฝีมือชั้นเซียน (ฝีมือขั้นเทพ) คนหนึ่ง
หาตัวจับได้ยาก –> 无懈可击 (wú xiè kě jī)
他带球超越对方后卫的动作无懈可击。
Tā dài qiú chāo yuè duì fāng hòu wèi de dòng zuò wú xiè kě jī.
ลีลาการเลี้ยงลูกผ่านกองหลังฝ่ายตรงข้ามของเขาหาตัวจับได้ยาก
- สำหรับทักษะหรือฝีมือด้านอื่นๆ
- ทักษะหรือฝีมือทั่วไป ใช้คำว่า 手艺 shǒu yì
- ฝีมือการจัดสวน ใช้คำว่า 园艺 yuán yì
- ฝีมือด้านวิทยายุทธ์ ใช้คำว่า 武艺 wǔ yì
- ฝีมือการปรุงอาหาร ใช้คำว่า 厨艺 chú yì หรือ 手艺 shǒu yì
- ฝีมือด้านหัตถกรรม ใช้คำว่า 工艺 gōng yì หรือ 技艺 jì yì
เรียบเรียงโดย ทีมงานอาศรมสยาม-จีนวิทยา