(2023年5月刊)
(2023年5月刊)
คำจีนใช้สนุก 有趣的词语
bàn píng zi cù
สำนวน 半 瓶子 醋
แปลทีละคำศัพท์ ครึ่ง ขวด น้ำส้มสายชู
น้ำส้มสายชูครึ่งขวด
แปลเอาความ รู้แบบงูๆ ปลาๆ / ไม่เก่งแล้วยังอวดฉลาด
คำอธิบายเพิ่มเติม สำนวนนี้สื่อความหมายเชิงเปรียบเทียบ หมายถึง คนที่มีความรู้หรือความสามารถเพียงเล็กน้อย รู้ครึ่งๆ กลางๆ แต่มักชอบโอ้อวดว่าตนเก่ง ทั้งที่ยังไม่ได้เก่งมากพอ เสมือนน้ำครึ่งขวด เมื่อจับขึ้นมาเขย่าแล้วก็จะส่งเสียงดัง ขณะที่น้ำเต็มขวดจะไม่ส่งเสียงดังเมื่อถูกเขย่า ชาวจีนทางใต้ก็มีสำนวนสื่อความหมายคล้ายกันว่า 半桶水 bàn tǒng shuǐ น้ำครึ่งถัง ซึ่งมีการใช้เหมือนกับ คำว่า 半瓶子醋 น้ำส้มสายชูครึ่งขวด
- รูปแบบประโยคอื่นๆ ที่พบบ่อย
半瓶醋 bàn píng cù รู้แบบงูๆ ปลาๆ / ไม่เก่งแล้วยังอวดฉลาด
ตัวอย่าง
- 我用半瓶醋英文向美国人问路。
Wǒ yòng bàn píng cù yīng wén xiàng Měi guó rén wèn lù.
ฉันใช้ภาษาอังกฤษแบบงูๆ ปลาๆ ถามทางกับชาวอเมริกัน
- 那半瓶子醋司机竟然把车开翻了。
Nà bàn píng zi cù sī jī jìng rán bǎ chē kāi fān le.
คนขับรถไม่เก่งแล้วยังอวดฉลาดนั่นขับรถคว่ำไปแล้ว
- 就你那半瓶醋知识还当老师呢。
Jiù nǐ nà bàn píng cù zhī shí hái dāng lǎo shī ne.
แค่ความรู้แบบงูๆ ปลาๆ อย่างนั้นของคุณยัง (กล้า) จะมาเป็นครูอีก
ศัพท์และสำนวนน่ารู้ 实用惯用语
คุยโวโอ้อวด / คุยอวดตัวเอง
自夸 / 自吹自擂
zì kuā / zì chuī zì léi
คุยโวโอ้อวด / คุยอวดตัวเอง หมายถึง ยกตนเองว่าดีว่าเก่ง ขยายความหมายได้คือ คนที่หลงตัวเอง ชมตัวเอง คล้ายกับภาษาจีนว่า 自夸 zì kuā หรือ 自吹自擂 zì chuī zì léi โดยคำว่า 吹 ในที่นี้หมายถึง เป่าแตร, 擂 ในที่นี้หมายถึง ตีกลอง ดังนั้นคำว่า 吹擂 จึงแปลความหมายว่า เป่าแตร ตีกลอง เพื่อสร้างเสียงดังให้เป็นที่รับรู้กัน อุปมาว่า คุยโวคุยโต
ตัวอย่าง
- 他自夸是这个行业的专家。
Tā zì kuā shì zhè gè háng yè de zhuān jiā.
เขาคุยโวโอ้อวดว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในอาชีพนี้
- 马克龙年纪轻轻当上总统,但他从不自吹自擂。
Mǎ kè lóng nián jì qīng qīng dāng shàng zǒng tǒng, dàn tā cóng bú zì chuī zì léi.
มาครงดํารงตําแหน่งประธานาธิบดีตอนอายุยังน้อย แต่เขาไม่เคยคุยอวดตัวเอง
- 她经常自夸比别人聪明,然而事实恰恰相反。
Tā jīng cháng zì kuā bǐ bié rén cōng míng, rán’ér shì shí qià qià xiāng fǎn.
เธอมักจะคุยโวโอ้อวดว่าฉลาดกว่าคนอื่น แต่ทว่าความจริงกลับตรงกันข้ามเลย
เกร็ดความรู้ : คำว่า 自夸 ยังนิยมนำไปใช้ในสำนวน 王婆卖瓜,自卖自夸。wáng pó mài guā, zì mài zì kuā.
แปลว่า ยายหวางขายแตง ขายเองชมเอง อุปมาว่า คุยโวโอ้อวด คุยอวดตัวเอง
- 朱丽做出一丁点成绩就自夸。
Zhū lì zuò chū yì dīng diǎn chéng jī jiù zì kuā.
朱丽做出一丁点成绩就自吹自擂。
Zhū lì zuò chū yì dīng diǎn chéng jī jiù zì chuī zì léi.
朱丽做出一丁点成绩就王婆卖瓜,自卖自夸。
Zhū lì zuò chū yì dīng diǎn chéng jī jiù wáng pó mài guā, zì mài zì kuā.
จุรีทำผลงานออกมาได้น้อยนิดก็คุยโวโอ้อวด
- 你别在这里自夸,不过新人一个而已。
Nǐ bié zài zhè li zì kuā, bú guò xīn rén yí gè ér yǐ.
你别在这里自吹自擂,不过新人一个而已。
Nǐ bié zài zhè li zì chuī zì léi, bú guò xīn rén yí gè ér yǐ.
你别在这里王婆卖瓜,自卖自夸,不过新人一个而已。
Nǐ bié zài zhè li wáng pó mài guā, zì mài zì kuā, bú guò xīn rén yí gè ér yǐ.
นายอย่ามาคุยโวโอ้อวดแถวนี้ ก็แค่เด็กใหม่คนหนึ่งเท่านั้น
สนทนาพาที 汉语会话
…莫不是…
…mò bú shì…
…คงไม่ใช่… / …คงไม่ได้…
คำอธิบาย
โครงสร้างประโยค “…莫不是…” ใช้ในกรณีที่ผู้พูดต้องการถามถึงเรื่องราวที่ตนคาดเดาหรือคาดหมายไว้ เพื่อต้องการทราบข้อเท็จจริงว่าเป็นไปตามที่คาดไว้หรือเปล่า เช่น 1. ตามอาการที่คุณบอกมานี้ คงไม่ใช่เป็นโรคเบาหวานแล้วนะ 2. พอได้กลิ่นคาวปลาก็รู้สึกพะอืดพะอม (เธอ) คงไม่ใช่ตั้งครรภ์แล้วนะ ในที่นี้สามารถใช้ “…别不是…” (…bié bú shì…) แทนได้ “…莫不是…” และ “…别不是…” มีความหมายว่า “…คงไม่ใช่…” หรือ “…คงไม่ได้…”
ตัวอย่างประโยค
- 据你说的这些症状,莫不是得了糖尿病?
Jù nǐ shuō de zhè xiē zhèng zhuàng,mò bú shì dé le táng niào bìng?
ตามอาการที่คุณบอกมานี้ คงไม่ใช่เป็นโรคเบาหวานแล้วนะ
- 一闻到鱼腥味就犯恶心,莫不是怀孕了吧?
Yì wén dào yú xīng wèi jiù fàn ě xīn,mò bú shì huái yùn le ba?
พอได้กลิ่นคาวปลาก็รู้สึกพะอืดพะอม (เธอ) คงไม่ใช่ตั้งครรภ์แล้วนะ
- 他怎么会说那样伤人的话,别不是你误会了?
Tā zěn me huì shuō nà yàng shāng rén de huà,bié bú shì nǐ wù huì le?
เขาพูดจาทำร้ายจิตใจคนอย่างนั้นได้อย่างไร คุณคงไม่ได้เข้าใจผิดนะ
ตัวอย่างบทสนทนา
(A เป็นภรรยา ปลุก B ผู้เป็นสามีกลางดึก)
A: 你听!楼下好像有声音。
Nǐ tīng!Lóu xià hǎo xiàng yǒu shēng yīn.
คุณฟังสิ! ชั้นล่างเหมือนมีเสียง
B: 门锁着谁进得来,莫不是你听错了?
Mén suǒ zhe shuí jìn de lái,mò bú shì nǐ tīng cuò le?
ประตูใส่กุญแจอยู่ใครจะเข้ามาได้ เธอคงไม่ได้หูฝาดนะ
A: 真的!是人的脚步声。
Zhēn de!Shì rén de jiǎo bù shēng.
จริงๆ นะ! เป็นเสียงฝีเท้าคน
B: 别不是有小偷进来?我下去看看。
Bié bú shì yǒu xiǎo tōu jìn lái?Wǒ xià qù kàn kan.
คงไม่ใช่มีขโมยเข้ามานะ ผมจะลงไปดูหน่อย
…哪能…
…nǎ néng…
…จะ…ได้อย่างไร… / …จะ…ได้ยังไง…
คำอธิบาย
โครงสร้างประโยค “…哪能…” ใช้ในการย้อนถามเพื่อเน้นย้ำสิ่งที่พูดถึง โดยต้องการหรือไม่ต้องการคำตอบก็ได้ ซึ่งมักแฝงนัยประชดประชันเล็กน้อย เช่น 1. เขารักเธอขนาดนั้น จะพูดโกหกกับเธอได้ยังไง 2. เงินที่หามาด้วยความยากลำบาก จะใช้สุรุ่ยสุร่ายอย่างนี้เหมือนคุณได้ยังไง ในที่นี้สามารถใช้ “…怎么能…” (…zěn me néng…) แทนได้ “…哪能…” และ “…怎么能…” มีความหมายว่า “ …จะ…ได้อย่างไร… ” “ …จะ…ได้ยังไง… ”
ตัวอย่างประโยค
- 他那么爱你,哪能跟你说谎呢?
Tā nà me ài nǐ,nǎ néng gēn nǐ shuō huǎng ne?
เขารักเธอขนาดนั้น จะพูดโกหกกับเธอได้ยังไง
- 辛辛苦苦赚来的钱,哪能像你这么乱花呢?
Xīn xīn kǔ kǔ zhuàn lái de qián,nǎ néng xiàng nǐ zhè me luàn huā ne?
เงินที่หามาด้วยความยากลำบาก จะใช้สุรุ่ยสุร่ายอย่างนี้เหมือนคุณได้ยังไง
- 大家努力得来的研究成果,哪能由你一个人申请注册专利权?
Dà jiā nǔ lì dé lái de yán jiū chéng guǒ,nǎ néng yóu nǐ yí gè rén shēn qǐng zhù cè zhuān lì quán?
ผลงานวิจัยที่ได้มาจากความพยายามของทุกคน จะให้คุณยื่นขอจดสิทธิบัตรเพียงคนเดียวได้อย่างไร
ตัวอย่างบทสนทนา
(A กับ B กำลังคุยกันเรื่องเพื่อนชายของ B)
A: 薪水这么高的工作,他哪能不肯去干呢?
Xīn shuǐ zhè me gāo de gōng zuò,tā nǎ néng bù kěn qù gàn ne?
งานที่เงินเดือนสูงขนาดนี้ เขาจะไม่ยอมไปทำได้ยังไง
B: 不一定,他这人一贯挑剔,对我这个女朋友也一样!
Bù yí dìng,tā zhè rén yí guàn tiāo tī, duì wǒ zhè gè nǚ péng yǒu yě yí yàng!
ไม่แน่หรอก เขาคนนี้ช่างหาที่ติมาแต่ไหนแต่ไร กับฉันซึ่งเป็นแฟนก็เหมือนกัน!
A: 你对他这么好,哪能挑得出缺点来?
Nǐ duì tā zhè me hǎo,nǎ néng tiāo dé chū quē diǎn lái.
เธอดีกับเขาขนาดนี้ จะหาข้อเสียออกมาได้ยังไง
B: 别提了!我又哪能完全猜透他的心思呢?
Bié tí le!Wǒ yòu nǎ néng wán quán cāi tòu tā de xīn sī ne?
อย่าพูดถึงเลย ฉันจะเดาความคิดเขาทั้งหมดได้ยังไง