คำจีนใช้สนุก (有趣的词语)


 

———–—————–chàng       hóng    liǎn,        chàng       bái       liǎn

สำนวน—-—–—–—     唱            红          脸、          唱            白          脸

แปลทีละคำศัพท์———–ร้อง(งิ้ว)    สีแดง      หน้า        ร้อง(งิ้ว)     สีขาว     หน้า

—–—–—–—–—–—-ร้องหน้าแดง  ร้องหน้าขาว

แปลเอาความ—–—–(การ) เล่นบทดี-บทร้าย / (การ) ใช้พระเดช-พระคุณ

คำอธิบายเพิ่มเติม สำนวนนี้เปรียบเปรยพฤติกรรมการใช้เล่ห์กลต่อผู้อื่น ทั้งพระเดช-พระคุณ ทั้งเล่นบทดี-บทร้าย เพื่อให้อยู่ในโอวาทหรือบรรลุวัตถุประสงค์บางอย่าง มีที่มาจากการเล่นงิ้ว เพราะโดยปกติแล้วตัวละครที่แต่งหน้าแดงจะเป็นบทคนดี ส่วนตัวละครที่แต่งหน้าขาวจะเป็นคนไม่ดี

 

เกร็ดความรู้

เวลาแสดงงิ้วจีน นักแสดงจะแต่งหน้าฉูดฉาดด้วยการใช้สีต่างๆ เหมือนใส่หน้ากาก เพื่อบ่งบอกความหมายเชิงสัญลักษณ์ หากแต่งหน้าด้วยสีแดงแสดงว่าตัวละครนั้นเป็นคนดี มีความซื่อสัตย์ กล้าหาญ เช่น กวนอู (关羽) หากเป็นหน้าสีดำแสดงว่าเป็นคนซื่อตรง ยุติธรรม บ้าบิ่น เช่น เปาบุ้นจิ้น (包青天) แต่ถ้าแต่งหน้าด้วยสีขาว แสดงว่าตัวละครดังกล่าวเป็นคนไม่ซื่อสัตย์ คนเลว เช่น โจโฉ (曹操) เป็นต้น

 

รูปแบบการใช้อื่นๆ ที่พบบ่อย  

  • 红脸白脸都会唱
    hóng liǎn bái liǎn dōu huì chàng
    ใช้เป็นทั้งพระเดชพระคุณ, เล่นได้ทุกบททั้งร้ายและดี ทั้งบทพระเอกและผู้ร้าย
  • 一个唱红脸,一个唱白脸
    yí gè chàng hóng liǎn, yí gè chàng bái liǎn
    คนหนึ่งเล่นบทดี คนหนึ่งเล่นบทร้าย
    คนหนึ่งใช้พระคุณ คนหนึ่งใช้พระเดช

ตัวอย่าง

  1. 我的上司红脸白脸都会唱
    Wǒ de shàng sī hóng liǎn bái liǎn dōu huì chàng.
    เจ้านายของฉันใช้เป็นทั้งพระคุณและพระเดช (เจ้านายเป็นคนบริหารคนอย่างมีชั้นเชิง)
  2. 他俩一个唱红脸一个唱白脸,最终骗走了那笔钱。
    Tā liǎ yí gè chàng hóng liǎn, yí gè chàng bái liǎn, zuì zhōng piàn zǒu le nà bǐ qián.
    เขาทั้งสองคนหนึ่งเล่นบทดี คนหนึ่งเล่นบทร้าย ในที่สุดก็หลอกโกงเงินก้อนนั้นไปได้
  3. 教育孩子时,父母一个唱红脸一个唱白脸,这样做对不对?
    Jiào yù hái zǐ shí, fù mǔ yí gè chàng hóng liǎn, yí gè chàng bái liǎn, zhè yàng zuò duì bú duì?
    เวลาสั่งสอนลูก พ่อแม่คนหนึ่งเล่นบทดี คนหนึ่งเล่นบทร้าย ทำแบบนี้ถูกหรือไม่ถูก?


ศัพท์และสำนวนติดปากไทย-จีน (泰汉俗语)


 

跩 / 臭屁
zhuǎi / chòu pì
เต๊ะ, เต๊ะจุ๊ย,  เต๊ะท่า

เต๊ะ, เต๊ะจุ๊ย, เต๊ะท่า หมายถึง อาการกิริยาแบบวางท่า คิดว่าตนเองดีกว่าผู้อื่น คล้ายกับภาษาจีนว่า zhuǎi หรือ 臭屁 chòu pì ใช้กล่าวถึงภาพลักษณ์ หรือบุคลิกลักษณะของคนที่ทำตัวหยิ่งยโส ชอบอวดเบ่งว่ามีอํานาจ หรือทำเป็นใหญ่ รวมถึงการแสดงท่าทางให้ดูเด่นเพราะคิดว่าตัวเองสูงส่งกว่าผู้อื่น โดยคำว่า 臭 หมายถึง เหม็น และ 屁 หมายถึง ลมตด 臭屁 จึงเป็นคำที่ไม่สุภาพ ส่วน 跩 เดิมหมายถึง ท่าทางการเดินเบ่ง บางครั้งใช้ซ้ำกันว่า 跩跩  zhuǎi zhuǎi

 

 

ตัวอย่างประโยค

  1. 瞧见没?他一中彩票就好.
    Qiáo jiàn méi? Tā yí zhòng cǎi piào jiù hǎo zhuǎi.
    瞧见没?他一中彩票就好臭屁
    Qiáo jiàn méi? Tā yí zhòng cǎi piào jiù hǎo chòu pì.
    เห็นหรือยัง? เขาถูกลอตเตอรี่ทีไรก็จะเต๊ะจุ๊ยทุกที
  2. 博士毕业怎么啦?什么嘛!
    Bó shì bì yè zěn me la? Zhuǎi shén me ma!
    博士毕业怎么啦?臭屁什么嘛!
    Bó shì bì yè zěn me la? Chòu pì shén me ma!
    จบปริญญาเอกแล้วยังไง? เต๊ะอะไรนักหนา!
  3. 看他跩跩的样子,我才懒得理呢!
    Kàn tā zhuǎi zhuǎi de yàng zi, wǒ cái lǎn de lǐ ne!
    看他臭屁的样子,我才懒得理呢!
    Kàn tā chòu pì de yàng zi, wǒ cái lǎn de lǐ ne!
    ดูท่าทางเต๊ะจุ๊ยของเขาแล้ว ฉันเลยขี้เกียจสนใจน่ะ!
  4. 王刚其实很能干,只是有些时候太
    Wáng gāng qí shí hěn néng gàn, zhǐ shì yǒu xiē shí hòu tài zhuǎi
    王刚其实很能干,只是有些时候太臭屁
    Wáng gāng qí shí hěn néng gàn, zhǐ shì yǒu xiē shí hòu tài chòu pì.
    หวังกังความจริงมีความสามารถมาก เพียงแค่บางครั้งเต๊ะท่าเกินไป

 

—-—————–—-—-yí             jiàn              rú                gù

สำนวน———–—-—-一              见                如                故

แปลทีละคำศัพท์—–—-หนึ่ง          พบ,เจอ        เสมือน         ดั้งเดิม

—–—–—-—-—–—–เจอกันครั้งแรกก็เหมือนคุ้นเคยกันมานาน, แรกพบก็คุ้นเคยราวกับรู้จักกันมานาน

แปลเอาความ—–—–(เจอกันครั้งแรก) คุ้นเคยราวกับรู้จักกันมานาน / เจอกันครั้งแรกก็รู้สึกคุ้นเคยราวกับรู้จักกันมานาน

คำอธิบายเพิ่มเติม—–ใช้บอกความรู้สึกว่าถูกอัธยาศัยกันกับคนที่เพิ่งรู้จักกันครั้งแรก และสื่อความหมายโดยนัยว่า พูดคุยกันถูกคอ

ข้อพึงระวัง—–—–ไม่สามารถใช้ในกรณีที่ทั้งสองคนเคยรู้จักกันมาก่อนหรือพบปะกันเป็นครั้งที่สอง

 

ตัวอย่าง

  1. 虽是初次见面,但我俩一见如故
    Suī shì chū cì jiàn miàn, dàn wǒ liǎ yí jiàn rú gù.
    แม้ว่าเป็นการพบกันครั้งแรก แต่เราสองคนก็คุ้นเคยราวกับรู้จักกันมานาน
  2. 男女之间一见如故的亲切感是爱情吗?
    Nán nǚ zhī jiān yí jiàn rú gù de qīn qiè gǎn shì ài qíng ma?
    ความรู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมแบบคุ้นเคยราวกับรู้จักกันมานานระหว่างชายหญิงนั้น ถือว่าเป็นความรักหรือไม่?
  3. 李威性格开朗,我们一见如故,所以成了好朋友。
    Lǐ Wēi xìng gé kāi lǎng, wǒ men yí jiàn rú gù, suǒ yǐ chéng le hǎo péng yǒu.
    หลี่เวยมีนิสัยเปิดเผยร่าเริง เราเจอกันครั้งแรกก็รู้สึกคุ้นเคยราวกับรู้จักกันมานาน จึงกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
  4. 相似的经历让他俩产生一见如故的亲切感。
    Xiāng sì de jīng lì ràng tā liǎ chǎn shēng yí jiàn rú gù de qīn qiè gǎn.
    ประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกันทำให้พวกเขาเกิดความรู้สึกคุ้นเคยราวกับรู้จักกันมานาน

เกร็ดความรู้ :

ในสำนวนนี้ย่อมาจากคำว่า 故交 gù jiāo หมายถึง เพื่อนเก่า หรือคนรู้จักมาก่อน

ในที่นี้ไม่ได้ย่อมาจาก 故友 gù yǒu ซึ่งหมายถึง เพื่อนที่ตายจากไปแล้ว

 


คำศัพท์จีนที่คนไทยมักใช้สับสน (汉语易混淆词汇)


 

人脉 กับ 关系

 

人脉 rén mài กับ 关系 guān xì มักถูกนำมาใช้เกี่ยวกับมนุษยสัมพันธ์ เมื่อกล่าวถึงคนใดคนหนึ่งที่มีคอนเน็กชันหลากหลายกว้างขวาง มีคนรู้จักมาก ภาษาจีนมักใช้คำว่า 人脉广 (rén mài guǎng) กับ 关系广 (guān xì guǎng)

ตัวอย่าง

  • 长老板人脉广zhǎng lǎo bǎn rén mài guǎng
  • 张老板关系广zhāng lǎo bǎn guān xì guǎng
  • 张老板人脉关系广zhāng lǎo bǎn rén mài guān xì guǎng
    เถ้าแก่จางเป็นคนมีสายสัมพันธ์กว้างขวาง (รู้จักคนเยอะ)

เมื่อทั้งสองคำแปลว่าคอนเน็กชันกว้างขวางเหมือนกัน อย่างนั้นแล้วคำว่า 人脉 กับ 关系 ต่างกันอย่างไร

人脉 แปลตรงตัวว่า เครือข่ายสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ ใกล้เคียงกับภาษาอังกฤษคำว่า Connection คำว่า 脉 มีความหมายดั้งเดิมว่าสายเลือด (血脉) คำว่า 人脉 ในที่นี้จึงบ่งบอกถึง เครือข่ายสายสัมพันธ์ที่มนุษย์คบหากัน

ตัวอย่าง
成功者都懂得积累知识和人脉。
Chéng gōng zhě dōu dǒng dé jī lěi zhī shí hé rén mài.
ผู้ที่ประสบความสำเร็จล้วนรู้วิธีสั่งสมความรู้และเครือข่ายสายสัมพันธ์

关系 ในที่นี้ย่อมาจาก 人际关系 แปลว่า ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ หรือมนุษยสัมพันธ์

ตัวอย่าง
良好的人际关系给工作带来快乐。
Liáng hǎo de rén jì guān xì gěi gong zuò dài lái kuài lè.
มนุษยสัมพันธ์ที่ดีนำมาซึ่งความสุขในการทำงาน

ในแง่ของการสื่อความหมาย 人脉 จะมีความหมายกลางๆ ไม่บวกไม่ลบ ตรงกับคำว่า คอนเน็กชัน ซึ่งไม่ได้มีความหมายอื่นแฝงอยู่ ต่างกับ 关系 ซึ่งยังสื่อถึง เส้นสาย ให้ความรู้สึกเชิงลบได้ว่า เป้นสายสัมพันธ์ที่เกี่ยวพันด้วยผลประโยชน์ สามารถวิ่งเต้นเพื่อขอความช่วยเหลือตามที่ประสงค์ได้ ดั่งวลี  托关系 tuō guān xì การใช้เส้นสาย

ตัวอย่าง
孩子们自己能找工作,不必托关系
Hái zi men zì jǐ néng zhǎo gong zuò, bú bì tuō guān xì.
ลูกๆ หางานทำได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องอาศัยการใช้เส้นสาย

 


สนทนาพาที (常用口语)


…先…, 进而…

…xiān…, jìn ér…

…ก่อน  จากนั้นค่อย…

 

คำอธิบาย

โครงสร้างประโยค ‘…先…, 进而…’ ใช้ในกรณีที่ต้องการอธิบายหรือบอกลำดับขั้นตอนของการกระทำบางอย่าง หรือขั้นตอนในการดำเนินการเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น 1.ควรทำความเข้าใจต้นทุนของสินค้าก่อน  จากนั้นค่อยกำหนดราคาขาย  2.พวกเราเริ่มต้นศึกษาจากลักษณะของคำก่อน จากนั้นค่อยศึกษาวิธีการใช้คำ

‘…先…, 进而…’ มีความหมายว่า ‘…ก่อน จากนั้นค่อย…’

 

 

ตัวอย่างประโยค

  1. 应该了解商品成本,进而制定销售价格。
    Yīng gāi xiān liǎo jiě shāng pǐn chéng běn,jìn ér zhì dìng xiāo shòu jià gé.
    ควรทำความเข้าใจต้นทุนของสินค้าก่อน  จากนั้นค่อยกำหนดราคาขาย
  2. 我们从研究词性入手,进而研究词的用法。
    Wǒ men xiān cóng yán jiū cí xìng rù shǒu,jìn ér yán jiū cí de yòng fǎ.
    พวกเราเริ่มต้นจากศึกษาลักษณะของคำก่อน  จากนั้นค่อยศึกษาวิธีการใช้คำ
  3. 写文章前要订题目、找材料,进而整理顺序,然后再动笔。
    Xiě wén zhāng qián yào xiān dìng tí mù 、zhǎo cái liào,jìn ér zhěng lǐ shùn xù,rán hòu zài dòng bǐ.
    ก่อนจะเขียนบทความต้องกำหนดหัวข้อและหาข้อมูลก่อน  จากนั้นค่อยลำดับเนื้อหา แล้วจึงลงมือเขียน

 

ตัวอย่างบทสนทนา

(A ถาม B ถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการลงทุน)

A:           老板,关于那个项目,您决定要投资吗?
Lǎo bǎn,guān yú nà gè xiàng mù,nín jué dìng yào tóu zī ma?
นายครับ สำหรับโครงการนั้น คุณตัดสินใจจะลงทุนไหมครับ

B:           不急,调查市场情况,进而考察可行性。
Bù jí,xiān diào chá shì chǎng qíng kuàng,jìn ér kǎo chá kě xíng xìng.
ไม่รีบ สำรวจสภาวะของตลาดก่อน  จากนั้นค่อยตรวจสอบความเป็นไปได้

A:           市场调查是我们自己做,还是请专家做?
Shì chǎng diào chá shì wǒ men zì jǐ zuò,hái shì qǐng yǒu guān zhuān jiā zuò?
การสำรวจตลาดพวกเราดำเนินการเอง หรือว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญทำให้

B:           你派市场人员向专家请教,进而自己开展市场调查。
Nǐ pài shì cháng rén yuán xiān xiàng zhuān jiā qǐng jiào,jìn ér zì jǐ kāi zhǎn shì chǎng diào chá.
คุณส่งเจ้าหน้าที่การตลาดไปขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญก่อน  จากนั้นค่อยดำเนินการสำรวจตลาดเอง