ก๊าก 嘎嘎 หรือ 呷呷 gā gā – เสียงหัวเราะก๊ากอย่างไม่สำรวม ตัวอย่าง 他突然“嘎嘎”大笑起来,吓人一跳。 不知他在看什么书,独自嘎嘎笑个不停。 คิก 扑哧 หรือ 噗嗤 pū chī – เสียงหลุดหัวเราะคิก ตัวอย่าง 姐姐“扑哧”一声,笑了起来。 她忍了半天,最后还是扑哧乐了。 คิกคัก 咯咯 หรือ 格格 gē gē – เสียงหัวเราะคิกคัก (มักใช้สำหรับเด็กและผู้หญิง) ตัวอย่าง 一被挠痒痒,小孩就咯咯笑。 她一边看电视,一边咯咯笑个不停。 คิกๆ คักๆ 叽叽嘎嘎 หรือ 唧唧嘎嘎 jī jī gā gā – เสียงหัวเราะคิกๆ คักๆ (มักใช้สำหรับกลุ่มผู้หญิง) ตัวอย่าง 女子宿舍里总是传出叽叽嘎嘎的笑声。 女生们一见面就叽叽嘎嘎地说笑起来。 หึๆ 嘿嘿 hēi hēi – เสียงหัวเราะอย่างเย็นชา ตัวอย่าง 他嘿嘿冷笑着说:“你休想逃走!” 猎人嘿嘿一声,提起野兔走了。 เหอๆ 呵呵 hē hē หรือ 嘿嘿 hēi hēi – เสียงหัวเราะเหอๆ อย่างคนไม่ค่อยรู้เรื่อง หรือหัวเราะด้วยความงง ตัวอย่าง 他不善言语,问啥都只会呵呵傻笑。 他不善言语,问啥都只会嘿嘿傻笑。 เหอะๆ 呵呵 hē hē – เสียงหัวเราะแห้งๆ ตัวอย่าง 他只呵呵笑了两声就走开了。 他“呵呵”应了两声,究竟是什么意思? ฮิๆ 嘻嘻 xī xī – เสียงหัวเราะฮิๆ ตัวอย่าง 她兴奋地说:“嘻嘻…,我捡到一百块。” “这个送给你!”她嘻嘻地笑着跑开了。 ฮ่าๆ 哈哈 hā hā – เสียงหัวเราะฮ่าๆ ตัวอย่าง “哈哈!我抓到你了。” “飞行实验成功了!哈哈哈…” เรียบเรียงโดย อาศรมสยาม-จีนวิทยา
Tā tū rán “gā gā” dà xiào qǐ lái, xià rén yī tiào.
อยู่ๆ เขาก็หัวเราะก๊ากขึ้นมา ทำให้คนอื่นสะดุ้งด้วยความตกใจ
Bù zhī tā zài kàn shén me shū, dú zì gā gā xiào gè bù tíng.
ไม่รู้ว่าเขากำลังอ่านหนังสืออะไร หัวเราะก๊ากๆ คนเดียวไม่หยุด
Jiě jie “pū chī” yī shēng, xiào le qǐ lái.
พี่สาวหลุดเสียง “คิก” หัวเราะออกมาจนได้
Tā rěn le bàn tiān, zuì hòu hái shì pū chī lè le.
เธอกลั้นอยู่ตั้งนาน ในที่สุดก็หลุดหัวเราะคิกออกมา
Yī bèi náo yǎng yǎng, xiǎo hái jiù gē gē xiào.
พอถูกจั๊กจี้ เด็กน้อยก็หัวเราะคิกคัก
Tā yī biān kàn diàn shì, yī biān gē gē xiào gè bù tíng.
หล่อนดูโทรทัศน์พลางหัวเราะคิกคักไม่หยุด
Nǚ zi sù shè lǐ zǒng shì chuán chū jī jī gā gā de xiào shēng.
ในหอพักหญิงมักจะมีเสียงหัวเราะคิกๆ คักๆ ดังออกมาเสมอ
Nǚ shēng men yī jiàn miàn jiù jī jī gā gā de shuō xiào qǐ lái.
พวกนักศึกษาหญิงพอเจอหน้ากันก็พูดคุยส่งเสียงหัวเราะคิกๆ คักๆ
Tā hēi hēi lěng xiào zhe shuō: “Nǐ xiū xiǎng táo zǒu!”
เขาหัวเราะหึๆ อย่างเย็นชาพลางพูดว่า “แกอย่าได้คิดหนี!”
Liè rén hēi hēi yī shēng, tí qǐ yě tù zǒu le.
นายพรานหัวเราะหึๆ จับกระต่ายป่าขึ้นมาแล้วเดินจากไป
Tā bù shàn yán yǔ, wèn shá dōu zhǐ huì hē hē shǎ xiào.
เขาพูดไม่เก่ง ถามอะไรก็ได้แต่หัวเราะเหอๆ
Tā bù shàn yán yǔ, wèn shá dōu zhǐ huì hēi hēi shǎ xiào.
เขาพูดไม่เก่ง ถามอะไรก็ได้แต่หัวเราะเหอๆ
Tā zhǐ hē hē xiào le liǎng shēng jiù zǒu kāi le.
เขาแค่หัวเราะเหอะๆ สองทีแล้วก็เดินหนีไปเลย
Tā “hē hē” yìng le liǎng shēng, jiū jìng shì shén me yì sī?
เขาตอบรับด้วยเสียง “เหอะๆ” สองที หมายความอะไรกันแน่?
Tā xīng fèn de shuō:“Xī xī…, wǒ jiǎn dào yī bǎi kuài.”
เธอพูดด้วยความตื่นเต้นว่า “ฮิๆ ฉันเก็บเงินได้หนึ่งร้อยหยวน”
“Zhè gè sòng gěi nǐ!” Tā xī xī de xiào zhe pǎo kāi le.
“อันนี้ให้คุณค่ะ!” เธอวิ่งหายไปพร้อมหัวเราะฮิๆ
“Hā hā! Wǒ zhuā dào nǐ le.”
“ฮ่าๆ ! ฉันจับแกได้แล้ว”
“Fēi xíng shí yàn chéng gōng le! Hā hā hā…”
“การทดสอบบินสำเร็จแล้ว! ฮ่าๆๆ”