10 ราชสกุลในหน้าประวัติศาสตร์จีน
เรื่องโดย: กงจื่อเสียน
–——ในหน้าประวัติศาสตร์จีนอันแสนยาวนาน มีการเปลี่ยนแปลงราชวงศ์ รวมถึงชนชั้นปกครองหลายต่อหลายครั้ง จนเกิดสำนวน “改朝换代” (gǎi cháo huàn dài) ซึ่งหมายถึงการเปลี่ยนจากราชวงศ์เก่าสู่ราชวงศ์ใหม่ เมื่อเปลี่ยนราชวงศ์ ก็เท่ากับเปลี่ยนตระกูลผู้ปกครอง แล้วมีตระกูลใดบ้างที่เคยได้ครองแผ่นดินจีน?
–——อาศรมสยามฯ ขอแนะนำราชสกุลของจักรพรรดิจีน โดยคัดมา 10 ราชวงศ์ตั้งแต่ยุคราชวงศ์โจวจนถึงราชวงศ์ชิง มาดูกันว่ามีแซ่ไหนบ้างที่เคยได้ขึ้นเป็นใหญ่เหนือแผ่นดินมังกร และฝากชื่อไว้ในประวัติศาสตร์มาถึงทุกวันนี้!
1. ราชวงศ์โจว (周 ราว 1,046–256 ปีก่อนค.ศ.)
-
- ราชสกุล: จี (姬)
- ปฐมจักรพรรดิ: จีฟา (姬发 ไม่ทราบปีเกิด–1,043 ปีก่อนค.ศ.) หรือพระเจ้าจิวบู๊อ๋อง (周武王 โจวอู่หวัง)
- จักรพรรดิองค์สุดท้าย: จีเหยียน (姬延 336–256 ปีก่อนค.ศ.) หรือพระเจ้าโจวหนั่นหวัง (周赧王)
–——ราชวงศ์โจวเป็นราชวงศ์ที่มีอายุยืนยาวที่สุดในประวัติศาสตร์จีน และได้วางรากฐานทางอารยธรรมมากมายให้แผ่นดินจีนในยุคต่อมา ไม่ว่าจะเป็นระบบศักดินา (分封制) แนวคิดอาณัติสวรรค์ (天命) และแนวคิดปรัชญาต่างๆ
–——การปกครองสมัยราชวงศ์โจวเป็นการปกครองโดยระบบศักดินา กล่าวคือแบ่งปันดินแดนให้กับพระญาติ หรือขุนศึกไปปกครองตามรัฐต่างๆ โดยแต่ละรัฐมีอำนาจและกำลังทหารเป็นของตนเอง อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นราชวงศ์โจว (โจวตะวันตก 西周 ราว 1,046–771 ปีก่อนค.ศ.) เจ้ารัฐเหล่านั้นยังคงต้องสวามิภักดิ์ต่อราชวงศ์โจว ทำให้แผ่นดินยังคงความเป็นหนึ่งเดียวในบางแง่มุม แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายราชวงศ์ (โจวตะวันออก 东周 770–256 ปีก่อนค.ศ.) อำนาจของราชวงศ์โจวก็เสื่อมถอยลงอย่างมาก จนไม่สามารถควบคุมรัฐต่างๆ ได้ และนำไปสู่การแตกแยกของแผ่นดิน หรือที่นักประวัติศาสตร์เรียกว่ายุคชุนชิว (春秋 770–476 ปีก่อนค.ศ.) และยุคจ้านกั๋ว (战国 475–221 ปีก่อนค.ศ.) ในที่สุด
2. ราชวงศ์ฉิน (秦 221–206 ปีก่อนค.ศ.)
-
- ราชสกุล: อิ๋ง (赢)
- ปฐมจักรพรรดิ: อิ๋งเจิ้ง (嬴政259–210 ปีก่อนค.ศ.) หรือรู้จักกันในนาม “จิ๋นซีฮ่องเต้” (秦始皇帝 ฉินสื่อหวงตี้)
- จักรพรรดิองค์สุดท้าย: อิ๋งจื่ออิง (嬴子婴 230–207 ปีก่อนค.ศ.)
–——ราชวงศ์ฉิน มีต้นกำเนิดมาจากแคว้นฉิน (秦国) ในยุคชุนชิวจ้านกั๋ว (春秋战国 770–221 ปีก่อนค.ศ.) เป็นราชวงศ์แรกที่รวบรวมแผ่นดินจีนให้เป็นปึกแผ่น รวบอำนาจไว้ที่ศูนย์กลาง สร้างมาตรฐานกลางในหลากหลายด้าน เช่น ตัวอักษร เงินตรา หน่วยชั่งตวงวัด ฯลฯ นับเป็นรากฐานสำคัญในการปกครองอันมีคุณค่าให้แก่ราชวงศ์ถัดๆ มา
–——ปลายราชวงศ์ฉิน ภายใต้การปกครองที่กดขี่รุนแรง ราษฎรถูกเกณฑ์ไปสร้างกำแพงเมืองจีน และสุสานจักรพรรดิ ประกอบกับการแทรกแซงการเมืองของขันทีจ้าวเกา (赵高 258–207 ปีก่อนค.ศ.) ทำให้ราชสำนักวุ่นวาย ก่อให้เกิดการลุกฮือของชาวนาในหลายพื้นที่ และนำไปสู่การล้มล้างราชวงศ์ฉินในที่สุด จักรพรรดิองค์สุดท้ายอิ๋งจื่ออิง แรกเริ่มถูกหลิวปัง (刘邦 256–195 ปีก่อนค.ศ.) คุมตัวไว้ ภายหลังถูกเซี่ยงอี่ว์ (项羽 ราว 232–202 ปีก่อนค.ศ.) ประหาร
3. ราชวงศ์ฮั่น (汉 206 ปีก่อนค.ศ.–ค.ศ. 220)
-
- ราชสกุล: หลิว (刘) หรือ “เล่า” ในสำเนียงท้องถิ่น
- ปฐมจักรพรรดิ: หลิวปัง (刘邦 256–195 ปีก่อนค.ศ.) หรือ จักรพรรดิฮั่นเกาจู่ (汉高祖)
- จักรพรรดิองค์สุดท้าย: หลิวเสีย (刘协 ค.ศ. 181–234) หรือ จักรพรรดิฮั่นเซี่ยนตี้ (汉献帝) ชาวไทยรู้จักกันในนาม “พระเจ้าเหี้ยนเต้”
–——หลังจากล้มล้างราชวงศ์ฉิน หลิวปังก็ปราบดาภิเษกเป็นจักรพรรดิ สถาปนาราชวงศ์ฮั่นขึ้น ซึ่งนับเป็นหนึ่งในราชวงศ์ที่รุ่งเรืองที่สุดของประเทศจีน ราชวงศ์ฮั่นแบ่งเป็นราชวงศ์ฮั่นตะวันตก (西汉) และฮั่นตะวันออก (东汉) เนื่องจากถูกคั่นด้วยราชวงศ์ซิน (新 ค.ศ. 9–23) ซึ่งสถาปนาโดยหวังหม่าง (王莽 45 ปีก่อนค.ศ.–ค.ศ. 23) ทว่าราชวงศ์ซินปกครองแผ่นดินได้เพียง 14 ปีเท่านั้น ก่อนที่ราชวงศ์ฮั่นจะฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้ง
–——ช่วงปลายราชวงศ์ฮั่น ขันทีเรืองอำนาจ ขุนนางต่างแก่งแย่งชิงดี แผ่นดินเกิดกลียุคและถูกแบ่งออกเป็นสามก๊ก (三国) ได้แก่ จ๊กก๊ก หรือแคว้นสู่ (蜀国) วุยก๊ก หรือแคว้นเว่ย (魏国) และง่อก๊ก หรือแคว้นอู๋ (吴国) ค.ศ. 220 จักรพรรดิฮั่นเซี่ยนตี้ ถูกเฉาพี (曹丕 โจผี ค.ศ. 187–226) อ๋องแห่งวุยก๊ก บีบให้สละราชบัลลังก์ ราชวงศ์ฮั่นจึงถึงคราวอวสาน
4. ราชวงศ์จิ้น (晋 ค.ศ. 265–420)
-
- ราชสกุล: ซือหม่า (司马) หรือ “สุมา” ในสำเนียงฮกเกี้ยน
- ปฐมจักรพรรดิ: ซือหม่าเหยียน (司马炎 ค.ศ. 236–290)
- จักรพรรดิองค์สุดท้าย: ซือหม่าเต๋อเหวิน (司马德文ราว ค.ศ. 386–342)
–——หลังจากแผ่นดินฮั่นแตกออกเป็นสามก๊ก ตระกูลซือหม่าเริ่มกุมอำนาจในราชสำนักวุยก๊ก กระทั่งซือหม่าเหยียนบีบให้จักรพรรดิสละราชสมบัติ และสถาปนาราชวงศ์จิ้นขึ้นแทน นักประวัติศาสตร์เรียกช่วงเวลานับจากนี้ว่า “ราชวงศ์จิ้นตะวันตก” (西晋 ค.ศ. 265–317)
–——ค.ศ. 280 ซือมาเหยียนปราบง่อก๊กลงได้สำเร็จ ทำให้แผ่นดินจีนกลับมาเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง ทว่าความเป็นปึกแผ่นนี้คงอยู่ไม่นาน ก่อนจะเกิดศึกทั้งภายในและภายนอก จนเป็นชนวนการล่มสลายของราชวงศ์จิ้นตะวันตก เหล่าเชื้อพระวงศ์ที่รอดชีวิตได้ย้ายราชธานีลงใต้และฟื้นฟูราชวงศ์ขึ้นใหม่ ซึ่งนักประวัติศาสตร์เรียกว่าราชวงศ์จิ้นตะวันออก (东晋 ค.ศ. 317–420) ส่วนแผ่นดินทางตอนเหนือก็ถูกเหล่าชนเผ่าบนหลังม้าเข้ายึดครอง เหตุการณ์นี้นับเป็นจุดเริ่มต้นของยุคห้าชนเผ่าและสิบหกอาณาจักร (五胡十六国 ค.ศ. 304–439) ในภาคเหนือ และเข้าสู่ยุคราชวงศ์เหนือ–ใต้ (南北朝 ค.ศ. 420–589) เมื่อราชวงศ์จิ้นตะวันออกสิ้นสุดลงในเวลาต่อมา
5. ราชวงศ์สุย (隋 ค.ศ. 581–618)
-
- ราชสกุล: หยาง (杨)
- ผู้ก่อตั้งราชวงศ์: หยางเจียน (杨坚 ค.ศ. 541–604) หรือจักรพรรดิสุยเหวินตี้ (隋文帝)
- จักรพรรดิองค์สุดท้าย: หยางโย่ว (杨侑 ราวค.ศ. 605–619) หรือจักรพรรดิสุยกงตี้ (隋恭帝)
–——ก่อนหน้าราชวงศ์สุยคือราชวงศ์เป่ยโจว (北周ค.ศ. 557–581) หนึ่งในราชวงศ์ยุคราชวงศ์เหนือ-ใต้ (南北朝 ค.ศ. 420–589) ซึ่งแผ่นดินแดนเหนืออยู่ใต้การปกครองของชนเผ่านอกด่าน แต่แล้วแผ่นดินจีนก็กลับมาอยู่ในมือของชาวฮั่นอีกครั้ง เมื่อหยางเจียน ผู้สำเร็จราชการแห่งเป่ยโจวเข้ายึดอำนาจและปราบดาภิเษกเป็นจักรพรรดิแห่งราชวงศ์สุย จากนั้นก็ทรงปราบราชวงศ์เฉินใต้ (南朝陈 ค.ศ. 557–589) จนรวบรวมแผ่นดินได้สำเร็จ
–——อย่างไรก็ตาม จักรพรรดิสุยหยางตี้ (隋炀帝 ค.ศ.569–618) ผู้เป็นจักรพรรดิองค์ที่สองกลับโหดร้ายทารุณ สร้างความโกรธแค้นในหมู่ราษฎร จนเกิดเหตุกบฏตามมา สุดท้ายพระองค์ก็ถูกขุนนางปลงพระชนม์ ส่วนจักรพรรดิองค์สุดท้ายคือสุยกงตี้ พระราชนัดดาในพระเจ้าสุยหยางตี้ พระองค์เป็นเพียงหุ่นเชิดของขุนนางใหญ่นามว่าหลี่ยวน (李渊 ค.ศ.566–635) ภายหลังพระองค์จึงสละราชสมบัติ หลี่ยวนขึ้นเป็นจักรพรรดิและก่อตั้งราชวงศ์ถัง (唐 ค.ศ. 618–907) ขึ้นแทน
6. ราชวงศ์ถัง (唐 ค.ศ. 618–907)
-
- ราชสกุล: หลี่ (李)
- ปฐมจักรพรรดิ: หลี่ยวน (李渊 ค.ศ. 566–635)
- จักรพรรดิองค์สุดท้าย: หลี่จู้ (李柷 ค.ศ. 892–908)
–——ราชวงศ์ถังนับเป็นอีกหนึ่งยุคทองของประเทศจีน สืบสานรากฐานที่ราชวงศ์สุยได้สร้างขึ้นมา และผลักดันพัฒนาให้แผ่นดินเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด จนกลายเป็นดินแดนที่ทรงอิทธิพลของโลกในเวลานั้น ไม่ว่าจะด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือวัฒนธรรม
–——ทว่าระหว่างกลางราชวงศ์ถังถูกคั่นด้วยราชวงศ์อู่โจว (武周 ค.ศ. 690–705) ของพระนางบูเช็กเทียน ราชสกุลของแผ่นดิน จึงถูกแทนที่ด้วยสกุลอู่ (武) ชั่วคราว ก่อนจะกลับมาเป็นสกุลหลี่อีกครั้ง เมื่อพระนางถูกบีบให้สละราชบัลลังก์
–——จุดเปลี่ยนของราชวงศ์ถังเริ่มต้นจากเหตุการณ์กบฏอันลู่ซาน (安史之乱) ซึ่งทำให้เหล่าผู้บัญชาการทหารระดับภูมิภาคมีอำนาจมากขึ้น เมื่อถึงปลายราชวงศ์ยังประสบปัญหาเศรษฐกิจจนก่อให้เกิดกบฏมากมาย ทั้งการลุกฮือของชาวนา และการแย่งชิงอำนาจของขุนศึก แต่ทุกอย่างต้องปิดฉากลง เมื่อขุนศึกนามว่า จูเวิน (朱温 ค.ศ. 852–912) บีบให้จักรพรรดิหลี่จู้ สละราชบัลลังก์ และตั้งราชวงศ์โฮ่วเหลียง (后梁 ค.ศ. 907–923) ขึ้นแทน จีนจึงเข้าสู่ยุคห้าราชวงศ์สิบอาณาจักร (五代十国 ค.ศ. 907–960) ที่แผ่นดินแตกแยกอีกครั้งหนึ่ง
7. ราชวงศ์ซ่ง (宋 ค.ศ. 960–1279)
-
- ราชสกุล: จ้าว (赵)
- ปฐมจักรพรรดิ: จ้าวควงอิ้น (赵匡胤 ค.ศ. 927–976)
- จักรพรรดิองค์สุดท้าย: จ้าวปิ่ง (赵昺 ค.ศ. 1272–1279)
–——ก่อนที่ราชวงศ์ซ่งเหนือจะกำเนิดขึ้น “จ้าวควงอิ้น” เคยเป็นขุนศึกของราชวงศ์โฮ่วโจว (后周ค.ศ. 951–960) ในยุคห้าราชวงศ์สิบอาณาจักร (五代十国 ค.ศ. 907–960) แต่ภายหลังผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาร่วมมือกันสถาปนาจ้าวควงอิ้นให้เป็นจักรพรรดิ และก่อตั้งราชวงศ์ซ่งขึ้น นักประวัติศาสตร์เรียกว่าราชวงศ์ซ่งเหนือ (北宋 ค.ศ. 960–1127)
–——เมื่อจ้าวควงอิ้นขึ้นครองราชย์ ได้ปราบปรามแคว้นน้อยใหญ่จนรวมแผ่นดินจีนตอนกลางและตอนใต้ได้ หลังจากนั้นก็ได้รวบอำนาจทางการทหารและการคลังไว้ที่ส่วนกลาง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขุนศึกมีอำนาจเหมือนช่วงราชวงศ์ถัง อีกทั้งยังมีนโยบายให้ความสำคัญกับขุนนางฝ่ายบุ๋นมากกว่า แต่ผลจากนโยบายนี้ทำให้ราชวงศ์ซ่งเสียเปรียบอาณาจักรต่างชาติอย่างเหลียว (辽) ซีเซี่ย (西夏) และจิน (金 หรือที่ชาวไทยรู้จักในนาม “กิมก๊ก”) สุดท้ายในค.ศ. 1126 ราชวงศ์ซ่งเหนือก็ถูกอาณาจักรจินพิชิตลงได้สำเร็จ จักรพรรดิซ่งฮุยจง (宋徽宗 ค.ศ. 1082–1135) และจักรพรรดิซ่งชินจง (宋钦宗 ค.ศ. 1100–1156) ถูกจับตัวไปเป็นองค์ประกัน ส่วนจ้าวโกว (赵构ค.ศ. 1107–1187) พระโอรสของจักรพรรดิซ่งฮุยจง ได้ไปฟื้นฟูราชวงศ์ทางตอนใต้ นักประวัติศาสตร์เรียกว่า “ราชวงศ์ซ่งใต้” (南宋 ค.ศ. 1127–1279) ภายหลังราชวงศ์ซ่งใต้ประสบปัญหาทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะศึกสงครามกับมองโกล สุดท้ายจึงถูกราชวงศ์หยวนล้มล้างได้ในที่สุด
8. ราชวงศ์หยวน (元 ค.ศ. 1206[1]–1368)
-
- ราชสกุล: โป๋เอ๋อร์จี้จิ่น (孛儿只斤) บ้างออกเสียงว่า “เป้ยเอ๋อร์จือจิน”
- ปฐมจักรพรรดิ: โป๋เอ๋อร์จี้จิ่น ฮูปี้เลี่ย (孛儿只斤·忽必烈 ค.ศ. 1215–1294) หรือกุบไลข่าน (忽必烈汗)
- จักรพรรดิองค์สุดท้าย: โป๋เอ๋อร์จี้จิ่น ถั่วฮวนเทียมู่เอ่อร์ (孛儿只斤·妥懽帖睦尔 ค.ศ. 1230–1270)
–——ก่อนจะมาเป็นราชวงศ์หยวน ใน ค.ศ. 1206 เตมูจิน (铁木真ค.ศ. 1162–1227) หรือเจงกิสข่าน (成吉思汗) ได้รวบรวมเผ่าน้อยใหญ่และสร้างจักรวรรดิมองโกลขึ้น จากนั้นจึงค่อยๆ ปราบปรามอาณาจักรซีเหลียว (西辽) ซีเซี่ย (西夏) จิน (金) และต้าหลี่ (大理) ซึ่งเป็นการวางรากฐานให้แก่ราชวงศ์หยวนในเวลาต่อมา
–——ขณะที่ราชวงศ์ซ่งใต้ (南宋 ค.ศ. 1127–1279) กำลังประสบปัญหาในหลายด้าน ทั้งการรุกรานจากอาณาจักรข้างเคียง และปัญหาการเมืองภายในราชสำนัก ในค.ศ. 1271 กุบไลข่านสถาปนาราชวงศ์หยวน และนำทัพพิชิตราชวงศ์ซ่งใต้สำเร็จในค.ศ. 1279 ราชวงศ์หยวนถือเป็นราชวงศ์แรกที่แผ่นดินจีนทั้งหมดถูกปกครองโดยชาวต่างชาติ
–——สมัยราชวงศ์หยวน เป็นยุคที่อาณาเขตของจีนกว้างใหญ่ที่สุด มีการนำเอาแบบแผนการบริหารบางส่วนของชาวฮั่นมาปรับใช้ในการปกครอง อีกทั้งเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศก็รุ่งเรือง แต่ช่วงกลางถึงปลายราชวงศ์กลับเกิดรัฐประหารบ่อยครั้ง ทั้งยังมากไปด้วยการทุจริต จึงนำไปสู่การลุกฮือของกบฏชาวนา และการล้มล้างราชวงศ์หยวนโดยจูหยวนจาง (朱元璋 ค.ศ. 1328–1398)
9. ราชวงศ์หมิง (明 ค.ศ. 1368–1644)
-
- ราชสกุลจู (朱)
- ปฐมจักรพรรดิ: จูหยวนจาง (朱元璋 ค.ศ. 1328–1398) หรือจักรพรรดิหมิงไท่จู่ (明太祖)
- จักรพรรดิองค์สุดท้าย: จูโหยวเจี่ยน (朱由检 ค.ศ. 1611–1644) หรือจักรพรรดิฉงเจิน (崇祯)
–——ช่วงปลายราชวงศ์หยวน (元 ค.ศ. 1206–1368) จักรพรรดิไร้ความสามารถ ขุนนางฉ้อฉล ชาวมองโกลกดขี่ชาวฮั่น จึงเกิดกบฏขึ้นหลายกลุ่ม “จูหยวนจาง” ได้นำกองทัพกบฏพิชิตทั่วแดน กระทั่งเข้ายึดครองเมืองต้าตู (大都 ปัจจุบันคือเมืองปักกิ่ง) เมืองหลวงของราชวงศ์หยวน และปราบดาภิเษกขึ้นเป็นจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิง พร้อมย้ายราชธานีไปยังเมืองหนานจิง (南京 นานกิง) ปิดฉากการปกครองจีนโดยชนเผ่ามองโกลที่ยาวนานถึง 97 ปี ลงอย่างสมบูรณ์
–——ขณะที่ราชวงศ์หมิงครองแผ่นดิน ได้ฟื้นฟูวัฒนธรรมฮั่น ปรับปรุงระบบขุนนาง เศรษฐกิจรุ่งเรือง ทั้งยังมีการเดินสมุทรไปยังต่างแดน ไปจนถึงสร้างพระราชวังต้องห้ามอันโอ่อ่าสง่างาม ถือเป็นหนึ่งราชวงศ์ที่สำคัญของจีน
–——แต่แล้วช่วงปลายราชวงศ์หมิง จักรพรรดิละเลยราชกิจ ขันทีลุแก่อำนาจจนบ้านเมืองวุ่นวาย ขณะเดียวกันทัพแมนจูก็เริ่มขยายอิทธิพล ใน ค.ศ. 1644 หลี่จื้อเฉิง (李自成 ค.ศ. 1606–1645) นำทัพกบฏชาวนาบุกเข้าพระนคร ทำให้จักรพรรดิฉงเจินต้องทรงปลงพระชนม์ชีพ หลังจากนั้น แม่ทัพอู๋ซานกุ้ย (吴三桂 ค.ศ. 1612–1678) แห่งราชวงศ์หมิง ได้เปิดด่านให้ทัพแมนจูเข้ามาร่วมกันต่อต้านกบฏ ทว่าท้ายที่สุดชาวแมนจูก็เข้ายึดพระนคร และได้ครอบครองแผ่นดินจีน ราชวงศ์หมิงจึงถึงกาลสิ้นสุด ณ บัดนั้น
10. ราชวงศ์ชิง (清 ค.ศ. 1616[2]–1911)
-
- ราชสกุล: อ้ายซินเจ๋ว์หลัว (爱新觉罗)
- ปฐมจักรพรรดิ: อ้ายซินเจ๋ว์หลัว หนูเอ่อร์ฮาชื่อ (爱新觉罗·努尔哈赤 ค.ศ. 1559–1626)
- จักรพรรดิองค์สุดท้าย: อ้ายซินเจ๋ว์หลัว ผู่อี๋ (爱新觉罗·溥仪 ค.ศ. 1906–1967) หรือที่ชาวไทยรู้จักกันในนาม “จักรพรรดิปูยี”
–——ในขณะที่ราชวงศ์หมิงกำลังประสบปัญหาต่างๆ “อ้ายซินเจ๋ว์หลัว หนูเอ่อร์ฮาชื่อ” ได้รวบรวมชนเผ่าหนี่ว์เจิน (女真 หรือ满族 แมนจู) และสถาปนาอาณาจักรโฮ่วจิน (后金 ค.ศ. 1616–1636) ขึ้นทางพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของจีน อันเป็นต้นกำเนิดราชวงศ์ชิงในเวลาต่อมา ครั้นค.ศ. 1644 กองทัพชิงบุกยึดนครปักกิ่งได้สำเร็จ และเริ่มต้นปกครองแผ่นดินจีนอย่างเป็นทางการ เป็นอีกครั้งที่แผ่นดินจีนถูกปกครองโดยชนต่างเผ่า
–——ราชวงศ์ชิงครองอำนาจยาวนานถึง 268 ปีนับแต่เข้าด่านมา แต่ในช่วงปลายราชวงศ์กลับเผชิญความเสื่อมถอยรอบด้าน ทั้งระบบการปกครองที่ล้าหลัง ปัญหาเศรษฐกิจ การก่อกบฏภายในอาณาจักร และการรุกรานจากชาติตะวันตก ประกอบกับโลกกำลังเปลี่ยนแปลงเข้ายุคสมัยใหม่ ในค.ศ. 1911 การปฏิวัติซินไฮ่ (辛亥革命) จึงปะทุขึ้นเพื่อล้มล้างระบอบจักรพรรดิและราชวงศ์ชิงของชาวแมนจู จนกระทั่ง ค.ศ. 1912 จักรพรรดิปูยีได้สละราชสมบัติ ถือเป็นการสิ้นสุดระบอบจักรพรรดิที่ดำรงมายาวนานถึง 2,000 กว่าปีอย่างเป็นทางการ

ลำดับเวลาราชวงศ์ทั้ง 10 ตั้งแต่ราชวงศ์โจว จนถึง ราชวงศ์ชิง
*ปีคริสต์ศักราชอิงตามพจนานุกรมภาษาจีนปัจจุบัน《现代汉语词典》
[1] นับตั้งแต่เจงกิสข่านสถาปนาอาณาจักรมองโกล
[2] นับตั้งแต่หนูเอ่อร์ฮาชื่อสถาปนาอาณาจักรโฮ่วจิน