—–จา
รู้หรือไม่!!! วัดพุทธที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดบนเกาะเซี่ยเหมิน คือวัดอะไร? … เรามาดูประวัติกันเลยค่ะ
วัดหนานผู่ถัว
—–วัดหนานผู่ถัว (南普陀) ตั้งอยู่ในเมืองเซี่ยเหมิน (厦门) มณฑลฮกเกี้ยน (福建) มีความเป็นมาตั้งแต่สมัยปลายราชวงศ์ถัง (唐 ค.ศ. 618-907) เดิมชื่อว่า วัดซื่อโจว (泗洲寺) ต่อมามีการรื้อถอน สร้างใหม่และเปลี่ยนชื่อหลายครั้ง ครั้นเมื่อรัชสมัยจักรพรรดิคังซี (康熙 ค.ศ. 1654-1722) แห่งราชวงศ์ชิง (清 ค.ศ. 1644-1911) ซือหลาง (施琅 ค.ศ. 1621-1696) ขุนนางใหญ่ในมณฑลฮกเกี้ยนได้บริจาคเงินเพื่อบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ และสร้างอาคารใหม่ขึ้นหลายหลัง พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็น ‘วัดหนานผู่ถัว’ (南普陀寺) ซึ่งถือเป็นวัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดบนเกาะเซี่ยเหมินจนกระทั่งปัจจุบัน
วัดหนานผู่ถัว
—–วัดหนานผู่ถัวประกอบด้วยสถาปัตกรรมและยประติมากรรมที่สร้างขึ้นตามคติความเชื่อของพุทธศาสนานิกายมหายาน ตั้งตระหง่านอยู่บนเชิงเขาอู๋หล่าว (五老) กินพื้นที่ทั้งหมด 25,800 ตารางเมตร มีสระบัวขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณหน้าวัด รายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาพันธุ์ อันเป็นทัศนียภาพที่สวยสดงดงามผสมผสานระหว่างธรรมชาติกับสถาปัตยกรรม
—–เมื่อเข้าเขตวัด ภายในมีสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ 4 หลัง สร้างเรียงกันเป็นแนวตรงจากทิศใต้ไปทิศเหนือ อันได้แก่ วิหารท้าวจตุโลกบาล (天王殿) เป็นอาคารไม้ชั้นเดียว ที่ประดิษฐานรูปเคารพองค์พระศรีอาริยเมตไตรย ท้าวจตุโลกบาลและพระเวทโพธิสัตว์ ต่อด้วยพระมหาอุโบสถ (大雄宝殿) ซึ่งถือเป็นองค์ประธานของสิ่งก่อสร้างทั้งหมด สร้างขึ้นตามศิลปะจีนฮกเกี้ยนดั้งเดิม ภายในมีพระพุทธรูปพระพุทธเจ้า 3 พระองค์[1] ตามความเชื่อของนิกายมหายาน ลำดับถัดไปคือศาลาไม้ทรงแปดเหลี่ยมนามว่าวิหารมหาเมตตา (大悲殿) ความพิเศษของวิหารหลังนี้คือไม่ใช้ตะปูในการก่อสร้างแม้แต่เล่มเดียว ภายในประดิษฐานพระโพธิสัตว์กวนอิมองค์ใหญ่ที่ทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล และวิหารด้านในสุดคือหอพระไตรปิฎก(藏经阁) เป็นอาคารไม้สองชั้น ชั้นล่างใช้เป็นสถานที่แสดงธรรม ส่วนชั้นบนใช้เก็บพระไตรปิฎกจากหลากหลายประเทศและโบราณวัตถุล้ำค่ามากมาย ทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปมรกตจากประเทศพม่าทั้งสิ้น 28 องค์อีกด้วย
วิหารท้าวจตุโลกบาล
วิหารมหาเมตตา
—–นอกจากนี้ เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของวัดหนานผู่ถัวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวคือโรงเจ ด้วยวัตถุดิบที่สดใหม่และตำรับโบราณที่สืบทอดกันมาอย่างช้านาน ทำให้อาหารเจที่นี่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดดเด่นด้วยรสเค็มและหวาน เป็นอีกหนึ่งความประทับใจที่ทำให้ผู้มาเยือนต่างหลงใหลเพียงแค่คำแรกที่ได้ลิ้มลอง
—–ด้วยเหตุนี้เองจึงกล่าวได้ว่า วัดหนานผู่ถัวเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ ‘ครบเครื่อง’ ทั้งบรรยากาศร่มรื่น สถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมเก่าแก่ พร้อมด้วยอาหารเจเลิศรส ทำให้ผู้มาเยือนต่างอิ่มตา อิ่มบุญ และอิ่มท้องกลับไปอย่างถ้วนหน้า
[1] พระพุทธเจ้า 3 พระองค์ประกอบด้วยพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระศากยมุนีพุทธเจ้า และอดีตพระพุทธเจ้า 2 องค์ ได้แก่ พระอมิตาภะพุทธเจ้า และพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า โดยปกติจะประดิษฐานเรียงจากซ้ายไปขวาดังนี้ พระอมิตาภะพุทธเจ้า พระศากยมุนีพุทธเจ้า และพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าตามลำดับ
เรียบเรียงโดย ทีมงานอาศรมสยาม-จีนวิทยา