ภูเขาหนิวโส่วซาน: พุทธสถานชื่อดังของประเทศจีน
โดย ทีมงานอาศรมสยาม-จีนวิทยา
“แหงนมองสองยอดตั้งประชัน ดุจดั่งสองเขาของคาวี” (遥望两峰争高,如牛角然)
—บันทึกจินหลิงหลั่นกู่《金陵览古》
—–ภูเขาหนิวโส่วซาน (牛首山) ตั้งอยู่ในเขตเจียงหนิง เป็นจุดชมวิวในเขตชานเมืองทางตอนใต้ของเมืองหนานจิง มีความสูง 248 เมตร เป็นพุทธสถานชื่อดังของประเทศจีน เรืองนามด้วยภูมิหลังทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง เป็นภูเขาที่แฝงด้วยกลิ่นอายโบราณอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองหนานจิง
- ชื่อของเขาหนิวโส่ว
—–เหตุที่ภูเขาแห่งนี้มีชื่อว่า หนิวโส่ว (牛首 ศีรษะวัว) เป็นเพราะตัวภูเขามีสองยอดที่สูงขึ้นมาคล้ายกับเขาวัว นอกจากนี้ ชาวบ้านยังเรียกที่แห่งนี้ว่า เขาหนิวโถวซาน (牛头山 ภูเขาหัววัว) อีกด้วย
—–นอกจากคำว่า “หนิวโส่ว” ภูเขาแห่งนี้ยังมีชื่อว่า เทียนเช่ว์ (天阙) อันหมายถึง “ป้อมประตูสวรรค์” โดยที่มาของชื่อนี้ ต้องกล่าวย้อนไปยังค.ศ. 317 สมัยราชวงศ์จิ้นตะวันออก (东晋) จักรพรรดิจิ้น หยวนตี้ (晋元帝 ค.ศ. 276-323) ก่อตั้งราชวงศ์จิ้นขึ้น และตั้งนครเจี้ยนคัง (建康) (ปัจจุบันคือหนานจิง) เป็นราชธานี ในเวลาต่อมา พระองค์มีพระประสงค์สร้างซุ้มประตูศิลาคู่นอกพระราชวัง เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งพระราชอำนาจ ทว่าอัครเสนาบดีหวังต่าว (王导 ค.ศ.276-339) เห็นว่าอยู่ในช่วงที่เพิ่งก่อตั้งราชวงศ์ อีกทั้งยังขาดแคลนทุนทรัพย์ จึงพยายามทูลเกลี้ยกล่อมให้ล้มเลิกพระราชดำริ จากนั้นจึงได้นำเสด็จให้พระองค์ไปทอดพระเนตรสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งก็คือภูเขาหนิวโส่วซานที่มียอดทั้งสองด้านประจันกัน และกราบทูลพระองค์ว่า “นี่ก็คือป้อมแห่งสวรรค์ ไยจึงต้องสร้างใหม่เล่าพ่ะย่ะค่ะ” (此天阙也,岂烦改作!) จิ้น หยวนตี้เข้าพระทัยความคิดของหวังต่าว จึงยกเลิกแผนสร้างซุ้มศิลาคู่ลงในที่สุด ซึ่งแม้แผนการสร้างจะถูกยกเลิก ทว่าชื่อ “ภูเขาเทียนเช่ว์” อันไพเราะนี้ก็ยังคงอยู่จวบจนปัจจุบัน
- ภูเขาหนิวโส่วซานในอดีต
—–ภูเขาหนิวโส่วซานมีประวัติความเป็นมายาวนาน ซึ่งในแต่ละยุคสมัยก็มีเรื่องราวที่แตกต่างกันไป เช่นในสมัยชุนชิว (春秋 ราว 770-476 ปีก่อนค.ศ.) ที่แห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางการเดินทางและการค้าของแคว้นอู๋ (吴国) และแคว้นฉู่ (楚国) เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญทางด้านการทหาร และเป็นศาสนสถานที่มักจะใช้ทำพิธีกรรมต่าง ๆ
—–ช่วงยุคสามก๊กจนถึงราชวงศ์เหนือใต้ ดินแดนหนานจิงได้กลายเป็นแหล่งกำเนิดวัฒนธรรมของราชวงศ์ใต้ (南朝 ราว ค.ศ. 420 – 589) ด้วยเหตุนี้ วัฒนธรรมด้านสถาปัตยกรรมของหนิวโส่วซานจึงได้รับการพัฒนา อีกทั้งยังกลายเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนาในสมัยนั้นอีกด้วย นับแต่นั้น เขาหนิวโส่วซานก็มีความเกี่ยวพันกับพุทธศาสนามาโดยตลอด
—–กระทั่งสมัยห้าราชวงศ์สิบแคว้น (五代十国 ค.ศ. 907 – 979) บ้านเมืองวุ่นวาย วัฒนธรรมจีนถดถอยลง แต่หลังจากที่จักรพรรดิหลี่เปี้ยนแห่งราชวงศ์หนานถังขึ้นครองราชย์ ก็ยึดหลักความคิดลัทธิหรู ประกอบกับพุทธศาสนาและหลักคิดของลัทธิเต๋าในการปกครองแผ่นดิน พระองค์ได้ถอนกองกำลังทหารเพื่อสร้างความสงบให้ประชาชน ทำให้เขตเจียงหวยมีสภาพแวดล้อมที่มั่นคงและสงบสุข เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของราชวงศ์หนานถังพัฒนาอย่างเต็มที่ อารยธรรมอันดีงามของจีนได้รับการอนุรักษ์ไว้ ทั้งนี้ เหล่าจักรพรรดิของราชวงศ์หนานถังยังมักเสด็จมานมัสการขอพรที่หนิวโส่วซานเป็นประจำอีกด้วย
—–จนถึงราชวงศ์หมิง (明 ค.ศ. 1368-1644) และชิง (清 ค.ศ. 1636 – 1912) หนิวโส่วซานได้ค่อย ๆ กลายเป็นศูนย์กลางด้านศาสนารวมถึงวัฒนธรรม และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของหนานจิงจนถึงปัจจุบัน
—–นอกจากนี้ ภูเขาหนิวโส่วซานยังเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์จีนด้านอื่นๆ อีก เช่น
-
- เป็นสุสานหลวงของสองจักรพรรดิราชวงศ์หนานถัง หลี่เปี้ยน (李昪 ค.ศ. 889 – 943) และหลี่จิ่ง (李璟 ค.ศ. 916 – 961) รวมถึงฮองเฮาของทั้งสองพระองค์
- เป็นฐานทัพของแม่ทัพเย่ว์เฟย (岳飞 งักฮุย ค.ศ. 1103 – 1142) ขณะทำสงครามกับชาวจิน (金)
- เป็นสุสานของขันทีเจิ้งเหอ (郑和 ค.ศ. 1371-1433) หรือที่คนไทยรู้จักกันในนามซำปอกง
- ดินแดนแห่งพุทธศาสนา
—–เขาหนิวโส่วซาน เป็นดินแดนแห่งพุทธศาสนามาตั้งแต่โบราณกาลจวบจนปัจจุบัน ดังนั้นจึงมีพุทธสถานจำนวนมากภายในอาณาบริเวณภูเขา อาทิ
-
- อารามฝอติ่ง (佛顶宫 อารามอุษณีษะ) เป็นใจกลางของแดนศักดิ์สิทธิ์อุษณีษะ ตั้งอยู่บนยอดฝั่งตะวันตกของเขาหนิวโส่วซาน ภายในอารามมีทั้งหมด 9 ชั้น แบ่งเป็นบนดิน 3 ชั้น และใต้ดิน 6 ชั้น ประกอบไปด้วยสามโครงสร้างหลักคือ อารามแดนเซน (禅境大观) วิหารสารีริกธาตุ (舍利大殿) อารามบรรจุสารีริกธาตุ (舍利藏宫) ในอารามมีพระบรมสารีริกธาตุส่วนข้างพระเศียรของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประดิษฐาน เพื่อให้เหล่านักท่องเที่ยวได้มากราบไหว้ และยังจัดแสดงนิทรรศการด้านวัฒนธรรมของพุทธศาสนานิกายเซน (禅) รวมถึงพระศรีศากยมุนีปางไสยาสน์ ที่วิจิตรงดงามอีกด้วย

(อารามฝอติ่ง)

(สถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในวิหารเชียนฝอ)
-
- วัดฝอติ่ง (佛顶寺) วัดในหนิวโส่วซานเริ่มมีมาตั้งแต่สมัยต้นราชวงศ์ใต้ เป็นแหล่งกำเนิดของศาสนาพุทธนิกายเซนสายหนิวโถว (牛头禅) เริ่มแรกได้ชื่อว่า วัดฝอคู (佛窟寺) ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น วัดหงเจ๋ว์ (宏觉寺) ภายหลังถูกทำลายในช่วงสงครามจีนญี่ปุ่น ในเวลาต่อมา เขตเจียงหนิงต้องการสร้างสถานที่ที่มีชื่อเสียงด้านวัฒนธรรม จึงสร้างวัดนี้ขึ้นมาใหม่บนพื้นที่เดิม ก่อสร้างแล้วเสร็จใน ค.ศ. 2015 และได้ตั้งชื่อใหม่ให้แก่วัดแห่งนี้ว่า วัดฝอติ่ง (佛顶寺) ตามพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในภูเขาลูกนี้
-
- สวนวัฒนธรรมนิกายเซน (牛头禅文化园) สร้างขึ้นบนซากปรักหักพังของวัดหงเจ๋ว์ (宏觉寺) เพื่อสืบทอดวัฒนธรรมของพุทธศาสนานิกายเซน ศูนย์กลางของสวนวัฒนธรรมนี้คือเจดีย์วัดหงเจ๋ว์ (弘觉寺塔) ซึ่งมีความสูง 45 เมตร และเป็นเจดีย์อิฐเลียนแบบโครงสร้างไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในนครหนานจิง